+++เหตุชุลมุนวุ่นวายเมื่อผู้ค้าชาวเขมรนับร้อย ไม่พอใจเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) บุกจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ บริเวณตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เตรียมจับเพิ่มอีกสองคน ตั้งข้อหา ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ขัดขวางการทำงานและ ทำลายทรัพย์สินราชการ
+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงษ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ระบุว่า ตลาดโรงเกลือถือเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ที่สำคัญของประเทศ เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ พยายามปราบปรามจับกุมมาโดยตลอด และมักจะใช้มวลชนมากดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ สำหรับประเด็นในการทำร้ายเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดรวมถึงผู้ใช้และจ้างวานถ้ามี เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ละเมิดกฎหมายบ้านเมืองอีกต่อไป
+++ทีมโฆษกดีเอสไอ ชี้แจงกรณีผู้ไม่หวังดีนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เผยแพร่บนเฟสบุ๊คบิดเบือนข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ดังกล่าว และกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริต เนื่องจากไม่ประสานหน่วยงานพื้นที่ก่อนว่า เรื่องนี้ดีเอสไอได้รับการร้องขอจากสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย มาตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน 2558 โดยขอให้ปราบปรามจับกุมผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ประเภทน้ำหอม ซึ่งมีจำนวนมากบริเวณตลาดโรงเกลือ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้อนุมัติให้ทำการสืบสวน จนพบว่ามีมูลความผิด มีของละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมาก และน่าจะเป็นเครือข่าย อยู่ในอำนาจที่ดีเอสไอจะดำเนินการตามกฎหมายการสอบสวนคดีพิเศษ
+++วันที่ 2 ก.พ.2559 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจำนวน 3 จุด ซึ่งศาลได้ตรวจพยานหลักฐานและอนุมัติหมายค้นให้ตามขอ โดยขอเข้าตรวจค้นในวันที่ 3 ก.พ. เวลา 10.00 น เจ้าหน้าที่สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาและสำนักปฏิบัติการพิเศษ ประมาณ 50 คน และตัวแทนผู้เสียหาย ได้เข้าตรวจค้นตามหมายทั้ง 3 จุด เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและแสดงหมายค้นให้เจ้าของสถานที่ทราบ ซึ่งจากการตรวจค้นทั้ง 3 จุดพบของกลางเป็นน้ำหอมยี่ห้อต่างๆรวมแล้วมากกว่า 20,000 ขวด และมีการควบคุมผู้ครอบครองไว้เพื่อบันทึกจับกุม
+++ระหว่างนั้นเริ่มมีกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาเข้ามาล้อมส่งเสียงข่มขู่เจ้าหน้าที่และเริ่มขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทะยอยขนของกลางขึ้นใส่รถทึ่เตรียมไปด้วย กลุ่มมวลชนซึ่งมีแกนนำก็เข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ มีการขว้างก้อนอิฐ ก้อนหินใส่รถเจ้าหน้าที่จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและรถยนต์ทางราชการเสียหาย เมื่อสถานการณ์บานปลาย จึงมีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ และได้ถอนกำลังออกมา
+++พร้อมตั้งข้อสังเกต การเข้าปิดล้อมว่ากระทำการรวดเร็ว มีแกนนำ เป็นขั้นเป็นตอน อาจมีผู้อยู่เบื้องหลังซึ่งอาจเป็นผู้รับประโยชน์ที่แท้จริงจากขบวนการค้าสิ่งของละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งอาจเป็นความผิดอาญาเรื่องฟอกเงิน ซึ่งดีเอสไอ จะได้สืบสวนขยายผลต่อไป
+++ปัญหาเกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดตรัง รวมทั้งเครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ เตรียมทำหนังสือสรุปปัญหาและอุปสรรค์ในการรับซื้อยางพาราตามโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 100,000 ตัน เพราะในช่วงที่เปิดรับซื้อยางพาราสะท้อนถึงสาเหตุปัญหาที่เกษตรกรไม่นำยางมาขายให้แก่รัฐ และสาเหตุที่สถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมเปิดเป็นจุดรับซื้อน้อยมาก รวมทั้งข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหายื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะเดินทางลงพื้นที่ติดตามการรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรในโครงการดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดตรังในวันพรุ่งนี้ (5 ก.พ.)
+++นอกจากนี้ จะเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มจุดรับซื้อให้ครบตามจำนวน 834 จุด ที่กำหนดเอาไว้ เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงจุดการขายได้ทุกตำบล รวมทั้งขอให้เพิ่มจำนวนปริมาณยางที่จะรับซื้อจากเกษตรกร/ไร่/ราย จากเดิมไร่ละ 10 กก.รายละไม่เกิน 15 ไร่ มาเป็นไร่ละ 20 กก.ไม่เกิน 15 ไร่/ราย พร้อมทั้งให้มอบอำนาจการจ่ายเงินสด ณ จุดรับซื้อให้แก่เกษตรกรโดยตรง โดยจุดรับซื้อแต่ละจุดจะต้องสรุปผลการจ่ายเงินเป็นรายวัน เพื่อให้โครงการโอนเงินให้แก่จุดรับซื้อต่อไป และจุดรับซื้อจะไม่สามารถทุจริต หรือทำการสวมสิทธิ์ของเกษตรกรได้
+++เรื่องสภาพอากาศ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในช่วงวันที่ 5 - 9 ก.พ. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลงไป มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร อาจส่งผลให้เกิดคลื่นซัดชายฝั่งรุนแรงในบางพื้นที่ได้ ปภ.จึงได้ประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมถึง ปภ.เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และ ปภ.จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือวาตภัย ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง หากเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ลงเล่นน้ำ และงดประกอบกิจกรรมทางน้ำ
+++ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งทหารลงพื้นที่ ทำความเข้าใจกับประชาชนประเด็นร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ส่งทหารเข้าไปแต่ละพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนว่าร่างรัฐธรรมนูญและประโยชน์ของร่างรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร อีกทั้งจะช่วยแก้ไขปัญหาการทุจริตได้อย่างไร เพื่อให้ประชาชนรับรู้และฟังเสียงของรัฐบาลเป็นหลัก เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจในการปฏิรูปประเทศ โดยทหารจะลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักควบคู่กับการชี้แจงเรื่องร่างรัฐธรรมนูญไปพร้อมกัน เพื่อไม่ให้เสียเวลา
+++พล.อ.ธีรชัย กล่าวว่า ทหารจะดูในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทหารเป็นหลักว่ามาตรใดที่เกี่ยวข้องและมีผลกระทบหรือไม่อย่างไร จากนั้นจะเสนอไปยังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ซึ่งโดยรวมพล.อ.ประวิตรก็เร่งรัดอยู่ ทางทหารก็จะเสนอไปว่าร่างรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้ยังสามารถแก้ไขได้ และต้องเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย
CR:แฟ้มภาพ