การแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะแถลงข่าวเรื่องความร่วมมือ3ประเทศ..ลดปริมาณการส่งออกยาง ซึ่งจะเป็นการแถลงข่าวพร้อมกันในเวลา10.00นเวลาไทย ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย ส่วน ความคืบหน้าการรับซื้อยางพารา พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงว่า ตามที่กระทรวงเกษตรฯ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้เปิดจุดรับซื้อยางจากเกษตรกรรายย่อยตั้งแต่วันที่25 มกราคม 2559 ผลการดำเนินการตามโครงการฯ จนถึงขณะนี้ มีปริมาณยางที่รับซื้อแล้วจำนวน 697.64 ตัน จากเกษตรกรจำนวน 7,171 ราย เป็นยางแผ่นดิบจำนวน 264.03 ตัน น้ำยางสดจำนวน 144.76 ตัน และยางก้อนถ้วยจำนวน 288.86 ตัน คิดเป็นเงินที่จ่ายให้เกษตรกรชาวสวนยาง 29.80 ล้านบาท และจากการสำรวจความพึงพอใจพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 85 พึงพอใจต่อมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลดังกล่าว
สำหรับปัญหาที่เกษตรกรนำยางมาขายน้อย มาจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือทยอยปิดกรีดยางแล้ว ส่วนภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง เกษตรกรเลือกขายให้พ่อค้าในพื้นที่เพราะสะดวกกว่า ความกังวลเรื่องคุณภาพยางของเกษตรกรว่าจะไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่โครงการฯกำหนด จุดรับซื้อกระจายไม่ทั่วถึง การรับเงินผ่าน บัญชี ธ.ก.ส. ใช้เวลา 2 วัน ปัญหากลุ่ม/สถาบันเกษตรกรไม่สมัครเป็นจุดรับซื้อยางในโครงการฯ เพราะได้รับค่าดำเนินการน้อย
ซึ่ง แนวทางแก้ไขแก้ปัญหาดังกล่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้ กยท. รีบประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์นี้ เพื่อปรับเงื่อนไขการรับซื้อยางให้สะดวกและคล่องตัวขึ้น เปิดจุดรับซื้อยางเพิ่มทุกจังหวัด
สำหรับความคืบหน้าผลการดำเนินโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง ได้จ่ายเงินให้ เกษตรกรชาวสวนยาง แบ่งเป็น เจ้าของสวนยางจำนวน 114,029 ครัวเรือน จำนวนเงิน 976,348,125 บาท คนกรีดยางจำนวน 108,997ครัวเรือน จำนวนเงิน 619,055,850บาท รวมทั้งสิ้นจำนวน 223,026 ครัวเรือน จำนวนเงิน1,595,403,975บาท จากข้อมูลการรับแจ้งเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 641,694ครัวเรือน