*ทำหมันยุงลาย/ฟ้องล้มละลายอ.หนีทุน/กนง.คงดอกเบี้ย*

03 กุมภาพันธ์ 2559, 18:59น.


สรุปข่าว 19.35น.



+++ยุงลายเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก และเชื้อไวรัส ซิกา รศ.สุพัตรา ทองรุ่งเกียรติ นักวิจัยภาควิชากีฏวิทยาการแพทย์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า กรณีการศึกษาวิจัยทำหมันยุงลายตัวผู้ เพื่อไม่ให้ผสมพันธุ์ และแพร่ประชากรยุงลาย รวมถึงการตัดแต่งพันธุกรรมยุงลาย ว่า ที่ผ่านมามีการทำในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ซึ่งผลออกมาพบว่าสามารถควบคุมปริมาณยุงได้ดี เนื่องจากเป็นการทดลองแบบจำกัดพื้นที่ แต่ยังไม่มีการปล่อยออกสู่ธรรมชาติ เพราะยังต้องมีการศึกษาอีกมาก เช่น ต้องปล่อยยุงที่เป็นหมันออกสู่ธรรมชาติจำนวนมากเพียงใด ต้องปล่อยซ้ำมากน้อยเพียงใด จึงจะไปแย่งชิงการผสมพันธุ์กับตัวเมียได้ และยุงที่มีการทำหมัน หรือตัดแต่งพันธุกรรม จะแข็งแรงพอที่จะอยู่ในธรรมชาติมากแค่ไหน ส่วนเมืองไทยมีการศึกษาเรื่องนี้บ้าง แต่ยังไม่มีการปล่อยสู่ธรรมชาติ แต่มีบางประเทศที่มีการปล่อยออกสู่ธรรมชาติบ้างแล้ว แต่เป็นเพียงวงจำกัด



+++จากการที่คณะเวชศาสตร์ฯ ได้ทำการศึกษาลูกน้ำในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกซ้ำซาก 5 ปี ในเขตบางขุนเทียน ผลการศึกษาพบว่า ในเดือน เม.ย.จะเป็นช่วงเวลาที่ยุงมีเชื้อไวรัสเดงกีสูงที่สุด ซึ่งเป็นหน้าแล้ง แต่การระบาดของไข้เลือดออก ก็จะเกิดในหน้าฝน เพราะฉะนั้นการจะควบคุมโรคต้องทำตั้งแต่ช่วงหน้าแล้งที่ยุงมีปริมาณเชื้อมาก ซึ่งการศึกษาครั้งนี้อาจนำมาใช้เป็นตัวคาดการณ์พื้นที่ระบาดได้ และในอนาคตอาจใช้เป็นโมเดลในการศึกษาปริมาณซิกาในยุงลายต่อไป หากพบว่ามีจำนวนผู้ป่วยโรคซิกาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น



++การฟ้องล้มละลาย  อาจารย์หนีทุน นางสาวอาภรณ์ แก่นวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(เลขาธิการ กกอ. ) แถลงข่าวดังกล่าวว่า   สกอ. ได้ส่งเรื่องการฟ้องล้มละลาย ทพ.หญิง ดลฤดี ไปให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ดำเนินการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2548 ขณะนี้ทางอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องล้มละลายต่อศาลไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2558 ดังนั้นจึงหมดปัญหาเรื่องคดีความจะหมดอายุความ ในวันที่ 15 มีนาคม 2559 นี้ อย่างไรก็ตาม หากศาลรับฟ้องแล้วตามหลักกฏหมายมูลหนี้ ทพญ.ดลฤดี จะต้องชดใช้หนี้ขณะนี้มีจำนวน 30 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7 ดังนั้น ยอดก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมยืนยันว่า  สกอ.ไม่ได้พึ่งจะมาดำเนินการในเรื่องนี้ แต่สกอ.ได้ดำเนินการติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ขณะสืบทรัพย์พบว่ามีทะเบียนราชฎร์อยู่ในประเทศไทยแต่ไม่พบว่า ทพญ.ดลฤดีครองทรัพย์สินใดอยู่ในประเทศไทยเลย และขณะสืบทรัพย์ก็ไม่พบว่า ทพญ.ดลฤดี มีสถานภาพสมรสแล้ว และถึงแม้จะมีสถานภาพสมรสแล้วก็ไม่สามารถใช้กับกฏหมายในราชอณาจักรไทยได้   



+++เหตุการณ์ ครั้งนี้ สกอ.ก็จะนำมาเป็นบทเรียน ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนทุนส่วนใหญ่จะกลับมาใช้ทุนตามสัญญา ไม่พบหนีการชดใช้ทุน เพราะการถูกฟ้องล้มละลายจะทำให้เสียสิทธิ์ต่าง ๆ มีบางคนลาออกก่อนที่จะชดใช้ทุนครบจำนวน เนื่องจากมีเหตุผลบางอย่าง หรือเรียนจบแล้วได้งานภาคเอกชนที่มีค่าตอบแทนสูงกว่า แต่ก็นำเงินมาชดใช้ทุนจนครบแทนการทำงานให้รัฐ ซึ่งผู้ขอทุนจะทราบแต่แรกแล้วว่าจะต้องใช้ทุนกี่ปี หรือต้องชดใช้เงินกี่เท่าของทุน ดังนั้นการที่ ทพญ.ดลฤดี บอกว่ารัฐบีบบังคับให้ใช้ทุนมากเกินไปจึงไม่ยอมใช้หนี้นั้นคงไม่ใช่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้าไม่ใช้ทุนจะต้องเสียอะไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมากรมบัญชีกลางก็ได้เปลี่ยนระเบียบผู้ค้ำประกันให้เป็นพ่อแม่ของผู้รับทุนแทนคนนอกในการเซ็นค้ำประกัน โดยไม่กำหนดว่าพ่อแม่ต้องเป็นข้าราชการ หรือกำหนดรายได้ของพ่อแม่ เพียงคาดหวังว่านักเรียนทุนจะไม่ทำให้พ่อแม่เดือดร้อน



+++ตร.พัทลุงนำ 2 ผู้ต้องหา แก๊งฆ่าหนุ่มฝังดิน-ข่มขืนสาว ฝากขังเพิ่มอีก 2 ราย ส่วนสาวทอม ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เตรียมนำฝากขังพรุ่งนี้พ.ต.อ.วิชัย วิชยานฤพล ผกก.สภ.ศรีนครินทร์ กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้นั้น ในเบื้องต้นพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุร้าย จำนวน 7 คน โดยมีนายคิว อายุ 19 ปี หัวหน้าแก๊งปืนควาย เป็นคนวางแผนการก่อเหตุร้าย ในวันนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ปรีชา หาสังข์ พงส.เจ้าของคดี และกำลังชุดปราบปราม นำ 2 ผู้ต้องหาเยาวชนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทลุง หลังจากนี้ทางตำรวจจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนนำส่งฟ้องอัยการ เพื่อนำส่งฟ้องศาลพัทลุงต่อไป



+++ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยังพบว่าผู้เสียหายหญิงบาดเจ็บที่รักษาตัวในโรงพยาบาลยังไม่สามารถให้การได้ จึงแจ้งสิทธิแก่มารดาของผู้บาดเจ็บแล้ว ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ดังกล่าวพบว่า ทางฝ่ายผู้เสียหายและญาติมีความหวาดกลัวมาก ต้องการให้มีการคุ้มครองพยาน จึงมีการประสานส่งคำขอคุ้มครองพยาน เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จึงได้เร่งสรุปเรื่องและขออนุมัติอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ อนุมัติสั่งคุ้มครองพยานในวันนี้ โดยเบื้องต้นประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จัดเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองพยาน จากสำนักคุ้มครองพยานลงไปดูแล พร้อมแจ้งสิทธิและรับคำขอเงินช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ทั้งผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ



+++ที่ประชุม กนง.นัดแรกของปี 59 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่  1.50% ต่อปี โดย กนง.เห็นว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/58 ทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงกับประเมินไว้ จากการใช้จ่ายภาครัฐที่ทำได้ดีต่อเนื่อง การบริโภคภาคเอกชนมีทิศทางดีขึ้น



+++ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. มีมติปรับลดราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2 บาทต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ 20.29 บาทต่อกิโลกรัมและ มีมติยกเลิกการชดเชยค่าขนส่งแอลพีจีไปยังคลังภูมิภาคต่างๆ ของ ปตท.แต่จะยังควบคุมราคาขายหน้าคลังแอลพีจีทั่วประเทศเป็นเวลา 3 เดือน ส่งผลให้ราคาขายปลีกที่ปรับลดไม่เท่ากันทั่วประเทศมีความแตกต่างกันตามระยะทาง ซึ่งอัตราชดเชยมีตั้งแต่ 0.60-2.00 บาท/กก. ซึ่ง ส่งผลทำให้ ราคาขายปลีกในวันพรุ่งนี้ที่ลดลง ราคากรุงเทพฯ ปริมณฑลและภาคตะวันออก จะลดลง 2 บาท/กก. หรือ 30 บาท /ถัง 15 กก.ราคาขายปลีกอยู่ที่ 20.29 บาท/กก.  ,คลังนครสวรรค์ ลดลง 13.67 บาท/ถัง หรือลดลง 0.92 บาท/กก. คลังสุราฎร์ธานี ลดลง 24.61 บาท/ถัง หรือ 1.64 บาท/กก.  สำหรับราคาแอลพีจี เดือน ก.พ.ที่ลดลง 2 บาท/กก. เป็นผลมาจากราคาตลาดโลกที่ลดลง ต่ำสุดในรอบ 12 ปี



+++นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอลครั้งที่ 3 มีมติเห็นชอบแนวทางออกในการคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอล ซึ่งจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.พิจารณาในวันที่ 10 ก.พ.นี้  ข้อเสนอของคณะทำงาน คือ การคืนใบอนุญาตสามารถทำได้ภายใต้หลักเกณฑ์สำคัญ คือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งได้แก่การชำระค่างวดก่อน ๆ จะต้องตกเป็นของรัฐ และผู้ประกอบการไม่สามารถเรียกร้องคืนได้ แต่หลังจากคืนใบอนุญาตแล้วก็ไม่ต้องชำระเงินในงวดต่อไป  แต่หน่วยงานภาครัฐบางแห่งที่เกี่ยวข้องยังมีความเห็นขัดแย้ง โดยมองว่าการคืนใบอนุญาตดังกล่าวควรจะต้องชำระเต็มจำนวน



ส่วนการค้างชำระค่าใบอนุญาตงวดที่ 2 ของบริษัท ไทยทีวี จำกัด ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 2 ช่อง คือ ไทยทีวีและเอ็มวีทีวี แฟมิลี่ (โลก้า) และไม่จ่ายตามกำหนดในวันนี้ หากสามารถประกาศหลักเกณฑ์การคืนใบอนุญาตได้ตามหลักเกณฑ์ข้างต้นที่คณะทำงานเสนอ ก็จะมีผลบังคับเป็นการทั่วไป รวมถึงกรณีของไทยทีวีก็น่าจะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ด้วย แต่เมื่อหลักเกณฑ์ดังกล่าวยังไม่ได้รับความเห็นชอบ ดังนั้น บริษัท ไทยทีวี จำกัด ก็ยังต้องปฎิบัติตามมติ กสท.เมื่อวันที่ 1 ก.พ.59 ที่จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในวันที่ 8 ก.พ.59 เพื่อพิจารณาลงมติเพิกถอนใบอนุญาตของ ไทยทีวี และแจ้งธนาคารกรุงเทพ (BBL) ในฐานะผู้ออกหนังสือค้ำประกัน ชำระเงินประมูลทุกงวดวงเงิน 1,634.4 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ทันทีภายใน 30 วัน หลังจากมีมติ และหากไม่ชำระก็จะเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อไป



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,291.77 จุด เพิ่มขึ้น 6.47 จุด (+0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 39,654.93 ล้านบาท ดัชนีดีดกลับขึ้นมาในช่วงบ่าย สวนทางตลาดหุ้นอื่นภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนลบกัน มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 559.43 จุด ปิดที่ 17,191.25 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลง 455.25 จุด ที่ 18,991.59 จุด

ข่าวทั้งหมด

X