นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ว่า ที่ประชุม กบง. มีมติปรับลดราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2 บาทต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ 20.29 บาทต่อกิโลกรัมและ มีมติยกเลิกการชดเชยค่าขนส่งแอลพีจีไปยังคลังภูมิภาคต่างๆ ของ ปตท.แต่จะยังควบคุมราคาขายหน้าคลังแอลพีจีทั่วประเทศเป็นเวลา 3 เดือน ส่งผลให้ราคาขายปลีกที่ปรับลดไม่เท่ากันทั่วประเทศมีความแตกต่างกันตามระยะทาง ซึ่งอัตราชดเชยมีตั้งแต่ 0.60-2.00 บาท/กก. ซึ่งทุกภาคราคาจะลดลง แต่ราคาที่ลำปางซึ่งอยู่ไกลสุดจะไม่ลดลงเพราะค่าชดเชยเดิมอยู่ที่ 2 บาทต่อ กิโลกรัม ทั้งนี้ กบง.มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานและ สนพ. ประสานกับกระทรวงพาณิชย์ ในการพิจารณาบัญชีค่าขนส่งด้วยปกป้องการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค
ส่งผลทำให้ ราคาขายปลีกในวันพรุ่งนี้ที่ลดลง ราคากรุงเทพฯ ปริมณฑลและภาคตะวันออก จะลดลง 2 บาท/กก. หรือ 30 บาท /ถัง 15 กก.ราคาขายปลีกอยู่ที่ 20.29 บาท/กก. ,คลังนครสวรรค์ ลดลง 13.67 บาท/ถัง หรือลดลง 0.92 บาท/กก. ราคาขายปลีก 21.37 บาท/กก. คลังลำปาง ไม่ปรับลดราคาขายปลีกอยู่ที่ 22.29 บาท/กก. ,คลังขอนแก่นลดลง 7.48บาท/ถัง หรือลดลง 50 สต./กก.ราคาขายปลีก 21.79 บาท /กก.,คลังสุราฎร์ธานี ลดลง 24.61 บาท/ถัง หรือ 1.64 บาท/กก. ราคาขายปลีก 20.65 บาท/กก. คลังสงขลา ลดลง 24.28 บาท/กก. ลดลง 1.62 บาท /กก. ราคาขายปลีก 20.67 บาท /กก.
สำหรับราคาแอลพีจี เดือน ก.พ.ที่ลดลง 2 บาท/กก. เป็นผลมาจากราคาตลาดโลกที่ลดลง และ กบง.ปรับเปลี่ยนเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากเก็บเข้า 0.2331 บาท/กก. เป็น ชดเชย ที่ 0.4116 บาท/กก โดยราคา LPG ตลาดโลก (CP) เดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 297 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ต่ำสุดในรอบ 12 ปี ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 66 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่น ซึ่งเป็นต้นทุนเฉลี่ยของการจัดหาก๊าซ LPG ปรับลดลง 1.2244 บาท/กก. จาก 14.9550 บาท/กก. เป็น 13.7306 บาท/กก.และการปรับเปลี่ยนเงินกองทุนน้ำมันฯ ส่งผลให้ส่วนของก๊าซ LPG มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น 157 ล้านบาท/เดือนสำหรับฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 31 มกราคม 2559 อยู่ที่ประมาณ 42,719 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 1) ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG อยู่ที่ 7,291 ล้านบาท และ 2) ในส่วนของบัญชีน้ำมันสำเร็จรูป อยู่ที่ 35,428 ล้านบาท