*เกาหลีเหนือขู่จะปล่อยดาวเทียม/เตรียมฉลองเทศกาลตรุษจีน*

+++ชาวจีนต่างถิ่นในมณฑลกวางตุ้ง ที่ต้องการเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนต้องตกค้างอยู่ที่สถานีรถไฟกว่างโจวนับแสนคน หลังจากหิมะตกหนักทำให้รถไฟล่าช้า  ช่วงหลายสัปดาห์ ภาคเหนือและภาคกลางของจีน เผชิญสภาพอากาศเยือกแข็งและหิมะตกหนัก ส่งผลต่อการคมนาคม ทำให้รถไฟหลายขบวนที่มายังเมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้งมาถึงล่าช้า   ตำรวจกล่าวว่า จำนวนผู้เดินทางที่ตกค้างอยู่ที่สถานีรถไฟหลัก 2 สถานี คือ กว่างโจวและกว่างโจวตะวันออก เกือบ 1แสนคน ทำให้ทางการต้องระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยความมั่นคงเกือบ 4,000 นาย มาดูแลความสงบเรียบร้อย 

+++ ที่นครเซี่ยงไฮ้ อากาศเยือกแข็ง ทำให้รถไฟล่าช้า 55 ขบวนเช่นกัน ส่งผลให้ผู้โดยสารราว 30,000 คน ตกค้างนานหลายชั่วโมง การเดินทางกลับบ้านเกิดช่วงเทศกาลตรุษจีนของชาวจีนในแต่ละปีถือเป็นการอพยพย้ายถิ่นของผู้คนครั้งใหญ่ที่สุดในโลก รัฐบาลจีน ประเมินว่าช่วงฤดูการเดินทาง 40 วัน จะมีการเดินทางถึง 2,910 ล้านเที่ยว มณฑลกวางตุ้งในภาคใต้ ของจีนเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตและมีแรงงานจากต่างถิ่นทำงานอยู่จำนวนมหาศาล แรงงานจำนวนมากมีโอกาสกลับบ้านเกิดแค่ปีละครั้งในช่วงตรุษจีนที่ให้ลูกหลานต้องกลับมารวมตัวกันพร้อมหน้าก่อนวันขึ้นปีใหม่ของจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์

+++ส่วนที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐฯ เริ่มต้นการฉลองเทศกาลตุรษจีนกันแล้ว ทั้งนี้ ลอสแองเจลิส และแคลิฟอร์เนีย เป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ที่ชาวจีนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว งานฉลองเทศกาลตรุษจีนครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวระหว่างสหรัฐฯและจีน มีการแสดงดนตรี กายกรรม และการเต้นรำ  

+++สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ แจ้งว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ขนาด 5.8 เมื่อเวลา 22.19น.ของคืนวันอังคารที่2ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งตรงกับ21.19น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทยสร้างแรงสั่นสะเทือนในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึก190กม. ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้เสียชีวิตบาดเจ็บ ไม่มีประกาศเตือนภัยให้ระวังอันตรายจากคลื่นยักษ์สึนามิแต่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ซึ่งอยู่ไกลออกไปถึงเมืองเกาสงทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน รายงานว่าสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวจีน รายงานว่า วัดแรงสั่นสะเทือนถึง 6.2 ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน

+++องค์การทางทะเลระหว่างประเทศซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน ของอังกฤษ แถลงว่า ได้รับหนังสือแจ้งเตือนจากทางเกาหลีเหนือว่าเตรียมที่จะปล่อยดาวเทียมสำรวจในช่วงระหว่างวันที่ 8-25 ก.พ. ตั้งแต่เวลา7.00น.ถึง12.00น.ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงเปียงยางเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ เพื่อแจ้งเตือนพลเรือนการเดินเรือและการสัญจรทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าวให้ระวังจรวดและเศษชิ้นส่วน แม้ว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะยืนยันว่าโครงการอวกาศของเกาหลีเหนือมีจุดประสงค์ในทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริงแต่ประชาคมโลกกลับมองว่าการปล่อยดาวเทียมนั้นแท้จริงแล้วมีจุดประสงค์แอบแฝงเพื่อทดสอบเรื่องการยิงขีปนาวุธมากกว่า

+++หากเกาหลีเหนือ ยังเดินหน้าส่งดาวเทียมตามประกาศก็เท่ากับเป็นการตบหน้าสหรัฐฯ ทั้งที่ใช้เวลาหาแนวร่วมสนับสนุนจากนานาชาติให้ดำเนินการคว่ำบาตรอย่างแข็งขันกับเกาหลีเหนือ หลังทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่6ม.ค.ขณะเดียวกัน นายดาเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฝ่ายเอเชียตะวันออกกล่าวว่า การที่เกาหลีเหนือจะปล่อยดาวเทียมนั้นถือว่าเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อพันธกรณีระหว่างประเทศและ ตอกกลับอย่างรุนแรงยิ่งกว่ากับมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ

+++สำนักข่าวอัลจาซีเราะห์ของกาตาร์ รายงานอ้างแหล่งข่าวทหารจากกองกำลังรัฐบาลอิรักว่า มือระเบิดกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) 3 คนได้สังหารทหารอิรัก 18 ศพจากเหตุระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตายในเมืองอัลบูเดียบ ทางตอนเหนือของเมืองรามาดี ประเทศอิรัก  นับเป็นปฏิบัติการเชิงรุกอย่างต่อเนื่องหลังถูกกองทัพอิรักผลักดันออกจากเมืองดังกล่าวเมื่อเดือนก่อน นับว่าสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งให้กับกองทัพอิรัก

 +++คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) ที่มีสมาชิก 28 ชาติจะเปิดตัวแผนการส่งเสริมการปราบปรามเงินทุนของกลุ่มก่อการร้ายในการประชุมที่เมืองสตราสบูร์ก ทางตะวันออกของฝรั่งเศส ฝรั่งเศสขอให้เพิ่มมาตรการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายอย่างแข็งกร้าวมากขึ้น หลังเกิดเหตุร้ายที่สำนักงานนิตยสารชาร์ลีเอ็บโดและซูเปอร์มาร์เก็ตชาวยิวเมื่อเดือนมกราคมปีก่อนที่มีผู้เสียชีวิตรวม 17 ศพ และยิ่งผลักดันมากขึ้นหลังเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่มีผู้เสียชีวิตรวม 130 ศพ

+++นายคริสโตเฟอร์ ไพน์ ประธานสภาผู้แทนราษฏรออสเตรเลีย กล่าวว่า รัฐสภาได้เปลี่ยนแปลงกฏระเบียบใหม่โดยการอนุญาตให้สส.สตรีที่เพิ่งคลอดลูกสามารถจะให้นมบุตร หรือป้อนนมจากขวดนมในที่ประชุมสภา ก่อนหน้านี้ หากจะให้นมบุตร ส.ส.สตรีจะต้องนำทารกแรกเกิดไปให้นมยังบริเวณที่จัดไว้ให้สาธารณชนเข้าเยี่ยมชมโดยเฉพาะ หรือสถานที่ทำงานในบริเวณอาคารรัฐสภา ซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็นกฏระเบียบที่ล้าสมัย และะทำให้การทำงานการเมืองกับชีวิตส่วนตัวเป็นเรื่องลำบากเกินควร สำหรับส.ส.หญิงที่เพิ่งคลอดบุตรสำหรับการให้นมบุตรในรัฐสภาเป็นประเด็นที่ไม่ได้ข้อยุติในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสเปน อิตาลีและอังกฤษ ส.ส.ส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องการนำทารกแรกเกิดเข้าไปในประชุมสภา แต่ตามกฎใหม่ของออสเตรเลียบ่งชี้ว่าทารกของส.ส.สตรีจะไม่ถือว่าเป็นผู้มาเยือนสภา ซึ่งที่ผ่านมาจะถูกห้ามไม่ให้เข้าไปยังที่ประชุมส.ส. ปัจจุบันมีส.ส.สตรี 40 คนจากจำนวนส.ส.ทั้งหมด 150 คน ในจำนวนนี้ส.ส.สตรี 3 คนคลอดบุตรนับแต่เดือนมีนาคมปีก่อน

+++ผลการนับคะแนน เสร็จสิ้น100เปอร์เซนต์ของการหยั่งเสียงการเลือกตั้งขั้นต้นแบบคอคัสชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรคเดโมแครตที่รัฐไอโอวา ปรากฏว่า นางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯในฐานะภริยาของอดีตประธานาธิบดีบิลคลินตัน ได้คะแนนร้อยละ 49.8 ชนะคู่แข่งคนสำคัญคือนายเบอร์นีแซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกจากรัฐเวอร์มอนต์ ซึ่งได้ไปร้อยละ 49.6 นายแอนดี้ แมคไกวร์ประธานพรรคเดโมแครตของรัฐไอโอวา ยอมรับว่าเป็นการเลือกตั้งที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐไอโอวา

CR:แฟ้มภาพ