นายกรัฐมนตรี วอนสื่ออย่าบิดเบือนข่าว

ก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ มีหลายองค์กรและหน่วยงานที่เข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน โดยในระหว่างที่คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร ประธานมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มอบดอกป๊อปปี้ สัญลักษณ์แสดงความระลึกถึงและเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึก เนื่องในวันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์นี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้ดูแลทหารให้มีเกียรติและศักดิ์ศรี เพราะเป็นผู้ปกป้องรักษาแผ่นดิน และทหารส่วนใหญ่เป็นลูกหลานคนจน นอกจากจะต้องมาตายฟรีและบาดเจ็บฟรีแล้ว ยังโดนคนเหยียบย้ำซึ่งใครก็รับไม่ได้ ดังนั้นต้องบอกให้ทหารมีศักดิ์ศรี เพื่อให้คนยอมรับ และต้องสร้างคนให้รู้หน้าที่อยู่ในกรอบกฎหมายและกติกาบ้านเมืองทำตัวให้มีประโยชน์

ขณะที่ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อเชิญชวนสวมสายรัดข้อมือ และลงนามในโปสเตอร์ We Can. I Can. รณรงค์ป้องกันโรคมะเร็ง เนื่องในวันมะเร็งโลก 4 กุมภาพันธ์นั้น นายกรัฐมนตรี เขียนข้อความรณรงค์ว่า ขอให้ทุกคนดูแลตัวเอง ตามคำแนะนำแพทย์และสาธารณสุข ไม่มีใครรักเรา ดูแลเราได้ดีที่สุดมากกว่าตัวเราเอง

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอบด้วยน้ำเสียงดุดัน ว่า  เรื่องรัฐธรรมนูญสื่อถามทุกวัน จะเลือกตั้งหรือเปล่า จะทันในปี 2560 หรือไม่ จะเลือกอะไรก็เลือก เลือกพรุ่งนี้ก็เลือก ไปเลือกกันมา แล้วก็ได้คนเฮงซวยเข้ามาอีก จะทำอย่างไร อย่ามาเดือดร้อน ทั้งตำหนิการเสนอข่าวบิดเบือน และชอบตั้งคำถามว่า รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยและเป็นสากลหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อยากให้ช่วยกันอธิบาย เพราะหากให้มีการจัดเลือกตั้งวันนี้ แล้วได้คนไม่ดีเข้ามาบริหารประเทศ ประเทศย่อยยับก็อย่ามาโทษตนเอง และกล่าวว่า ไม่ต้องมาเสนอข่าว หรือภาพของตนเองก็ได้ 

 

ส่วนเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดการหารือ กับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการทำประชามตินั้น จะมี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2552 รองรับอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมการทำประชามติในเรื่องการรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ได้กำหนดให้  (กกต.) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการทำประชามติไว้ แต่กำหนดโทษไม่ได้  แต่คาดว่าจะมีความขัดเจนมากขึ้นหลังจากหารือกับ กตต.