การกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ โดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-เมียนมา ในการช่วยเหลือแรงงานชาวเมียนมา ที่ถูกกักขังและบังคับใช้แรงงานประมง จ. ภูเก็ต พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุมตัว นายโซโม หรือ วตุ สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาในขบวนการกักขังและบังคับใช้แรงงานประมงชาวเมียนมาในประเทศไทย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา มีแรงงานชาวเมียนมา แอบหลบหนีออกจากเรือประมงขณะเข้าเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือและสอบถามขยายผลพบว่ามีชาวเมียนมาอีกหลายคนถูกกักขังไว้ที่แห่งหนึ่ง จึงตรวจค้นห้องไม่มีเลขที่ บริเวณเกาะสิเหร่ ถ. เทพประทาน ต.มรัษฎา อ. เมือง จ. ภูเก็ต พบชาวเมียนมา 29 คน ซึ่งเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ถูกกักขังอยู่ในห้อง ขนาดประมาณ 4x6 เมตร ไม่มีช่องทางหลบหนี เพราะประตูทางเข้าใส่กุญแจล็อคจากด้านนอก และถูกปิดล็อคจากด้านนอกด้วยกลอนไม้ 2 ชั้น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังจับกุมตัว Mrs. Jiw San Nyunt หรือนางมะโย อายุ 38 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นผู้เฝ้าประตูได้ และแจ้งข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ (แสวงหาผลประโยชน์โยยม ชอบจากการบังคับใช้แรงงานฯ), ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั่นเองหรือของผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น หรือไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และได้ลงมือกระทำตามสิ่งที่ได้สมคบกัน, ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน รวม 5 ข้อกล่าวหา
จากนั้นได้สืบสวนขยายผลออกหมายจับ นายโซโม หรือ วตุ สัญชาติเมียนมา (สามารถจับกุมได้แล้ว) และ Mr.Soe Win Aung Zo หรือ โกแป๊ะ หรือ อะเปด สัญชาติเมียนมา (อยู่ระหว่างหลบหนี) ซึ่งเหยื่อทั้งหมดถูกนายหน้าชาวเมียนมาชักชวนให้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศ และะมีนายหน้าฝั่งไทยมารับพาเดินทางต่อไปยังจ.ภูเก็ตและส่งให้กับ "โกแป๊ะ" ที่จะพาไปทำบัตรประจำตัวบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพูประเภทประมง) และออกค่าใช่จ่ายให้ก่อน จากนั้นระหว่างรอบัตรก็จะนำตัวไปกักขังโดยมีนางมะโย เป็นผู้เฝ้าดูแล สำหรับผู้ที่ได้รับบัตรแล้ว นายโซโม ก็จะทำหน้าที่ขับรถพาไปส่งลงเรือประมง ค่าจ้างแรงงานทั้งหมด โกแป๊ะ จะเป็นผู้รับแทนเพื่อหักค่าเดินทาง ค่าทำบัตร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยในชั้นสอบสวน นางมะโย และนายโซโม 2 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ทั้งนีคดีนี้เป็นการประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและเมียนมาในการป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะแรงงานภาคประมง จากการประชุมความร่วมมือเมื่อวันที่ 25-28 มกราคมที่ผ่านมา
ขณะที่พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ระบุว่า คดียังอยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มเรือประมงที่มีการใช้แรงงานผิดกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเรือ และกลุ่มเรือที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้พล.ต.อ. ศรีวราห์ ยังได้กล่าวอีกว่าว่า การทำสำนวนคดีค้ามนุษย์ต้องทำอย่างรอบคอบ เพื่อให้อัยการสั่งฟ้อง พร้อมให้การคุ้มครองพยานที่ให้การเป็นประโยชน์ เพื่อการดำเนินคดีจะได้เดินหน้าขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดทั้งหมดได้
*-*
ผสข.สมจิตร์ พูลสุข