การวางแนวทางเพื่อแก้ปัญหาลดการอุบัติเหตุจากเมาแล้วขับ ให้เป็นการทำงานที่มีความต่อเนื่อง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังจากที่พบกับนพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ และเครือข่ายของมูลนิธิฯ ว่า จากที่ได้รับทราบปัญหาการขับรถบนท้องถนนที่มาจากสาเหตุเมาแล้วขับ มีสถิติเสียชีวิตอุบัติเหตุปีละกว่า 10,000 รายต่อปี และไม่มีแนวโน้มว่าจะลดดลง ทางมูลนิธิฯ จึงขอให้รัฐบาลผลักดัน สนับสนุนและรณรงค์เพื่อลดปัญหา เนื่องจากปัญหาแท้จริงเกิดจากการบังคับใช้กฏหมาย และไม่มีผู้รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีคณะทำงานหรือคณะกรรมการมาดำเนินการโดยเฉพาะ เพราะสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่มาจากเมาแล้วขับ ในไทยอยู่ที่อันดับ 2 ของโลก ซึ่งปัญหานี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้ให้ความสำคัญและกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ มาตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น มีมาตรการการยึดรถผู้ที่เมาแล้วขับ ส่งผลให้สถิติตัวเลขอุบัติเหตุลดลง และมีแนวทางที่จะให้เกิดแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เบื้องต้นคาดว่าจะมีหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อที่จะตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะ
ด้าน นพ.แท้จริง กล่าวว่า การเข้าพบในวันนี้ ก็เพื่อมาขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่กำหนดนโยบายเรื่องเมาไม่ขับอย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา คือการออกคำสั่งตามมาตรา 44 ที่กำหนดให้ยึดรถผู้ที่เมาแล้วขับ ซึ่งทำให้ตัวเลขลดลงอย่างชัดเจนในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงอยากให้ดำเนินการต่อไป เพราะขณะนี้ทางปฏิบัติไม่มีการทำแบบนี้แล้ว และยังเสนอต่อพล.ร.อ.ณรงค์ กำหนดนโยบายให้ชัดเจนว่า แต่ละปีจะลดสถิติอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับอย่างไร พร้อมขอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลโดยตรงและมีเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตกว่า 24,000 ราย และผู้พิการกว่า 50,000 รายต่อปีที่มาจากสาเหตุเมาแล้วขับ รวมถึงยังไทยยังติดอันดับการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมาแล้วเป็นที่ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 2 ของโลก พร้อมกันนี้ยังเสนอให้มีการจ้างงานคนพิการตามมาตรา 35 โดยสนับสนุนให้คนพิการเป็นวิทยากรรณรงค์เมาไม่ขับแทนการจ้างงานอื่นๆ ที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อผู้พิการ
....
ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด