*สตช.แจงการเก็บหลักฐานมรณภาพพระพรหมสุธี ศาลให้ประกัน เดชจรัส แอบอ้างรับผลประโยชน์*

ความคืบหน้าการตรวจสอบประเด็นการมรณภาพของพระพรหมสุธี หรือ เจ้าคุณเสนาะ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าถึงจากการตรวจสอบจดหมายที่พบภายในกุฏิของพระพรหมสุธี หรือ เจ้าคุณเสนาะ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นลายมือของเจ้าคุณเสนาะ แต่ก็ได้นำจดหมายส่งกองพิสูจน์หลักฐานพร้อมเร่งรัดให้มีการตรวจสอบแล้ว ว่าเป็นลายมือของเจ้าคุณเสนาะจริงหรือไม่

ด้านพลตำรวจตรีทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บวัตถุพยานทุกอย่างภายในกุฏิไว้ทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจพิสูจน์ ในส่วนของจดหมาย พระมหากฤษณะ พระอุปัฏฐากใกล้ชิดพระพรหมสุธี ที่เป็นผู้พบเอกสารแล้วนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งภายในจดหมายเป็นการแจ้งถึงความประสงค์ที่ต้องการให้ดำเนินการภายหลังมรณภาพเท่านั้น ทั้งนี้ พระมหากฤษณะ ระบุ พระพรหมสุธี เคยมีการพูดตัดพ้อในเรื่องความตายว่า ตายแล้วไปไหน ถึง 2 ครั้งในช่วงปลายปี 2558 และเจ้าหน้าที่ยังได้มีการส่งตัวอย่างเลือดและของเหลวในร่างกายเพื่อตรวจสอบด้านพิษวิทยา ว่ามีสารเคมีชนิดใดในเลือดบ้าง พร้อมส่งพนักงานสอบสวนเดินทางเข้าพบกับแพทย์ประจำตัวของเจ้าคุณเสนาะด้วย

จากการสอบสวนบุคคลใกล้ชิดทราบว่าภายหลังจากพระพรหมสุธีถูกปลดจากตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคมแล้วเริ่มพบแพทย์และ ต้องรับประทานยาคลายเครียดถึงวันละสี่ครั้งและก่อนนอนต้องทานยานอนหลับ มาเป็นเวลานานกว่าปีเศษหลังเกิดเรื่อง ส่วนประเด็นความสงสัยเรื่องคนใกล้ชิดขนย้ายร่างของพระพรหมสุธีหลังจากถูกพบว่ากระทำการอัตวินิบาตกรรม คนใกล้ชิดให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเนื่องจากนาทีนั้นหวังว่าจะสามารถช่วยชีวิตได้

ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าถูกบุคคลแอบอ้างว่ามีความสนิทสนมกับบุคคลสำคัญในรัฐบาล พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีที่มีผู้เสียหายถูกหลอกโอนเงินเกือบ4ล้านบาท และอ้างว่าถูก ถูกนายเดชจรัส ชาญรัตน์ ที่ปรึกษาหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง คือผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร  ไปแอบอ้างถึงบุคคลสำคัญในรัฐบาล ทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กับส่วนราชการในการพิจารณาโครงการต่างๆ รวมทั้งหลอกลวงผู้เสียหายว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพ 3 แสนตันมาจำหน่ายให้ในราคาถูก

พลตำรวจเอกเดชณรงค์ ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเกิดขึ้นจริง ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนร่วมกันวางแผนและจับกุมได้  จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังเมื่อวันที่25มกราคม ซึ่งต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันไปแล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 2 คน พร้อมฝากถึงประชาชนให้ใช้วิจารณญาณในการไตร่ตรองถึงคำกล่าวอ้างของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ หากพบพิรุธก็ให้รีบแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ทันที

ผู้สื่อข่าว: พนิตา สืบสมุทร