*อนามัยโลก เตรียมประชุมฉุกเฉินไวรัสซิกา/ฝรั่งเศส รวบชายพกปืนเข้าไปในดิสนีย์แลนด์ปารีส/จีน อัดฉีดเงินเตรียมตรุษจีน*

+++องค์การอนามัยโลก ประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ ฉุกเฉินในวันจันทร์ที่1 ก.พ. เพื่อตัดสินใจว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซิกา ที่เป็นสาเหตุของภาวะศีรษะเล็กและสมองฝ่อในเด็กทารก และกำลังแพร่ระบาดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ควรประกาศให้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศหรือไม่ นายมาร์กอส เอสปินัล ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ไวรัสซิกาที่แพร่เชื้อโดยมียุงลายเป็นพาหะ อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน ประมาณ 3 - 4 ล้านคน ยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือรักษา และเป็นโรคที่มีลักษณะคล้ายกับโรคไข้เลือดออกและโรคชิกุนคุนยา ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการไข้อ่อนๆ ผิวหนังเป็นผื่น และตาแดง ประมาณร้อยละ 80 ของผู้ที่ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการ ทำให้ยากสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ ที่จะรู้ว่าตัวเองติดเชื้อซิกาหรือไม่

+++ไปที่ฝรั่งเศส เจอเหตุระทึกอีกครั้ง  เมื่อเจ้าหน้าที่รวบตัวชายคนหนึ่ง ที่โรงแรมในดิสนีย์แลนด์ปารีส ตั้งอยู่ห่างตะวันออกของเมืองหลวงฝรั่งเศสราว 30 กิโลเมตร และเป็นสวนสนุกที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในยุโรป หลังตรวจค้นพบอาวุธปืน 2 กระบอก กระสุนและคัมภีร์อัลกุรอาน ตำรวจยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการจับกุม มีรายงานว่า ชายคนดังกล่าวถูกตรวจจับได้ หลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมเข้าตรวจค้นตัว เนื่องจากเครื่องตรวจจับโลหะดังขึ้นตอนที่เดินผ่าน จากนั้นโทรแจ้งตำรวจ จากเอกสารต่างๆที่พบในตัวผู้ต้องสงสัยบ่งชี้ว่าเขาพักอยู่ในกรุงปารีส ชายคนดังกล่าวอ้างว่าเหตุที่ต้องพกปืนเพราะเอาไว้ป้องกันตัว แหล่งข่าวตำรวจ เปิดเผยว่า ชายคนนี้ไม่เคยเป็นที่จับตาของตำรวจมาก่อน

+++โฆษกของยูโรดิสนีย์ บริษัทผู้ดูแลสวนสนุกและผู้ถือหุ้นหลักของวอลท์ ดิสนีย์ โค บอกว่ายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝรั่งเศสเฝ้าระวังขั้นสูงสุดหลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายโจมตีกรุงปารีสในเดือนพฤศจิกายน และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 เดือนหลังจากเหตุโจมตีดังกล่าว ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ หวังขยายเวลาบังคับใช้ออกไปอีก 3 เดือน แม้ถูกคัดค้านอย่างมากจากนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน

+++ความร่วมมือระหว่างฝรั่งเศสกับอิหร่าน เป็นที่น่าจับตามอง หลังจากอิหร่านหลุดพ้นจากการคว่ำบาตรของกลุ่มชาติตะวันตก จากปัญหาโครงการนิวเคลียร์  ประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานี ผู้นำอิหร่านเดินทางเยือนฝรั่งเศส โดยมีประธานาธิบดีออลลองด์ จัดพิธีต้อนรับ ก่อนจะมีการหารือลงนามข้อตกลงความร่วมมือหลายรายการ รวมถึงการผลิตรถยนต์ในระยะยาว และให้คำมั่นส่งเสริมการค้าทวิภาคี มีการบรรลุข้อตกลงด้านการค้ามูลค่าหลายพันล้านยูโร

+++บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส เปอโยต์-ซีตรอง ประกาศแผนลงทุนร่วมกับ Khodro บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของอิหร่าน เพื่อผลิตรถยนต์ปีละ 2แสนคัน ที่โรงงานนอกกรุงเตหะราน

+++บริษัทรถไฟของรัฐบาลฝรั่งเศส SNCF ประกาศการบรรลุข้อตกลงเช่นกัน และคาดว่าจะมีอีกหลายบริษัทประกาศให้ความร่วมมือ

+++บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสโทเทล จะสั่งซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน วันละประมาณ 1 แสน50,000 – 2แสนบาร์เรลด้วยเนื่องจาก  อิหร่าน มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากเป็นอันดับ 4 ของโลก ปัจจุบันผลิตน้ำมันวันละ 2.8 ล้านบาร์เรล ประมาณ 1 ล้านบาร์เรลในจำนวนดังกล่าวเตรียมจะส่งออกขาย

++++ธนาคารกลางจีน  กำลังอัดฉีดเงินเข้าระบบการเงินอีก 3 แสน 40,000 ล้านหยวน หรือราว 1.85 ล้านล้านบาท เป็นการอัดฉีดครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันรองรับความต้องการใช้เงินที่จะเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลตรุษจีน และจะดำเนินการลักษณะเดียวกันนี้ในทุกวันทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์เป็นเวลา 3 สัปดาห์เริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ และจะเสริมสภาพคล่องระยะสั้นในช่วงเทศกาลหยุดตรุษจีนด้วย ปกติแล้วบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ในจีนจะจ่ายเงินเดือนและเงินพิเศษก่อนตรุษจีนซึ่งตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ขณะที่ ประชาชนทั่วไปจะแลกธนบัตรใหม่และซื้อของขวัญให้แก่กัน สัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางจีนเพิ่งอัดฉีดเงินเข้าระบบการเงินกว่า 1.5 ล้านล้านหยวน กว่า 8.17 ล้านล้านบาท

+++อัตราว่างงานของสเปน ลดลง เกือบร้อยละ 3 สู่ระดับร้อยละ 20.90 ในปี 2558 เป็นสิ่งยืนยันว่าเศรษฐกิจของสเปน กำลังฟื้นตัวสเปนพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย เมื่อกลางปี 2556 หลังเผชิญกับความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ 5 ปี จากผลของภาคอสังหาริมทรัพย์ฟองสบู่แตกเมื่อปี 2551 ซึ่งทำให้ประชาชนตกงานหลายล้านคน  อย่างไรก็ตาม จำนวนคนว่างงานที่เหลืออยู่ของสเปน ยังเป็นอัตราว่างงานสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มยูโรโซน รองจากกรีซ

+++ทางการญี่ปุ่น เผยโฉมเครื่องบินรบสเตลธ์ รุ่นทดลองและเป็นลำแรกที่ผลิตเองในประเทศทั้งหมด เพื่อพยายามแสดงถึงความเท่าทันทางด้านเทคโนโลยี และเสริมขีดขั้นสมรรถนะด้านการสอดแนมและข่าวกรอง ขณะที่ จีนขยายการรุกคืบทางทหารในภูมิภาค เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น กล่าวว่า เครื่องบินรบสเตลธ์ เอ็กซ์-2 (X-2) รุ่นทดลอง สีขาวสลับแดง ขนาดความยาวลำตัว 14 เมตร และความยาวปีก 9 เมตร ที่เผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่สนามบินนาโงยา ในเมืองโตโมะยามะ ทางภาคกลางของประเทศ คาดว่าจะออกบินทดสอบครั้งแรกประมาณหลังกลางเดือน ก.พ. 

+++โฆษกตำรวจจังหวัดปาลาวัน แหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ตำรวจพบศพของนายฌอง มาร์ค เมสซินา ชาวฝรั่งเศสวัย 54 ปี พร้อมนางเจเวลิน เวนตูริลโล ภริยาวัย 25 ปีและด.ช.กุยเลียโน วัย 4 ขวบนอนเสียชีวิตอยู่ในรถกระบะคันหนึ่งที่ถูกจอดทิ้งไว้ที่ถนนเส้นหนึ่งในเมืองนาร์รา เมืองเล็กๆที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 65,000 คน ตำรวจ คาดว่า รถกระบะดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุมาหลายวันแล้ว ตำรวจส่งศพไปตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่ศูนย์นิติเวชศาสตร์ประจำท้องถิ่นแห่งหนึ่ง คาดว่า จะใช้เวลาอีก 2-3 วันจึงทราบสาเหตุ ด้านสถานทูตฝรั่งเศสประจำกรุงมะนิลา ระบุว่า จะประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นเรื่องการจัดการศพต่อไป

+++ทางการอินเดีย เปิดเผยรายชื่อ 20 เมืองของประเทศ ที่จะมีระบบไฟฟ้า น้ำประปา สุขาภิบาล และการขนส่งสาธารณะ ที่ทันสมัย ในโครงการปรับปรุงมูลค่า 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  (ประมาณ 2 แสน 68,230 ล้านบาท) เพื่อแปลงโฉมให้กลายเป็นเมืองอัจฉริยะ มีมาตรฐานการดำรงชีวิตเทียบเท่ากับยุโรป เมืองของอินเดียจำนวนมาก ขาดแคลนสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ห้องส้วม และชุมชนเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากการไหลบ่าเข้าเมืองของประชาชนหลายหมื่นคนจากชนบท ทำให้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ประกาศจะสร้างเมืองอัจฉริยะใหม่ 100 เมืองทั่วประเทศ ภายในปี พ.ศ. 2565 โดยการบริหารปกครองเมืองเหล่านี้ จะเชื่อมต่อถึงกันด้วยระบบอินเทอร์เน็ต มีสาธารณูปโภคได้มาตรฐาน เช่นการบริหารจัดการขยะ และระบบการขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ แผนการของรัฐบาลยังรวมถึง การกระตุ้นการลงทุน และสร้างงานแก่ประชาชนหลายล้านคน

+++นายเวนไคอาห์ ไนดู รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาชุมชนเมืองอินเดีย ประกาศรายชื่อเมืองชุดแรก ที่เป็นเป้าหมายปรับเปลี่ยน ในจำนวนนี้รวมถึงเมืองเจนไน ทางภาคใต้ ที่เสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากความบกพร่องในการวางผังเมือง รวมถึงบางส่วนของกรุงนิวเดลี

 

CR:CNN