+++สภาพอากาศหนาวเย็น นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร(สสนก.) เปิดเผย ว่า คืนวันที่ 25 ม.ค.สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ อุณหภูมิ อาจจะลดลงอยู่ที่ 17 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 26 ม.ค.หลังจากนั้น อุณหภูมิจะเริ่มค่อยๆสูงขึ้น ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความกดอากาศสูงยังคงอยู่ ยังคงหนาวเย็นต่อไป สถานการณ์อากาศหนาวมากครอบคลุมหลายพื้นที่ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จะไม่เหมือนปรากฏการณ์ความหนาวเย็น เช่นที่ผ่านมา คือ ยิ่งปรากฏว่าหนาวมากเท่าไรก็จะยิ่งแห้งแล้งมากเท่านั้น แต่ปัจจัยความหนาวที่เกิดขึ้นเวลานี้ก็คือ ความกดอากาศสูงที่มาจากประเทศจีน กับความกดอากาศต่ำที่หอบเอาความชื้นมาจากอ่าวไทย ทำให้เกิด หนาว ฝน และลม ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สิ่งที่น่าห่วงคือตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. ด้านฝั่งตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีลมค่อนข้างแรงมาก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เตรียมตัวรับมือกับภาวะลมแรง
+++ด้านนายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่มีอุณหภูมิแปรปรวนแต่ก็ยังไม่ใช่ปีที่อุณหภูมิลดน้อยที่สุด สำนักพยากรณ์ ได้รวบรวมสถิติอุณหภูมิลดลงของประเทศไทยช่วง 2-3 ปี พบว่าปี 2557 ประเทศไทยมีอุณหภูมิต่ำกว่าปีนี้โดย จ.เชียงราย มีอุณหภูมิอยู่ที่ 5 องศาเซลเซียส น้อยกว่าปีนี้ที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 7.9 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.สกลนคร มีอุณหภูมิต่ำสุดปี 2557 อยู่ที่ 7องศาเซลเซียส แต่ปี 2517 มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่-1.4 องศาเซลเซียส โดยปีนี้อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 9 องศาเซลเซียส ขณะที่ กทม.อุณหภูมิต่ำสุดปี 2557 อยู่ที่ 14.8 องศาเซลเซียส ปีนี้อยู่ที่ 15.9 องศาเซลเซียส
+++อากาศหนาวในต่างประเทศ ประชาชน 85 ล้านคนทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯต้องเผชิญกับอากาศหนาวจัด การจราจรติดขัดในหลายเมืองในวันนี้ วันเริ่มต้นการทำงานประจำสัปดาห์ ประชาชนราว 3 แสนคน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ หลังพายุหิมะตกหนัก ระบบขนส่งสาธารณะกลับมาบริการตามปกติอีกครั้งหลังหยุดให้บริการเมื่อ 2 วันก่อน แต่ยังเปิดบริการได้ไม่ครบทุกท้องที่ ถนนถูกหิมะปกคลุม
+++ส่วนสายการบิน มีการยกเลิกเที่ยวบิน 12,000 เที่ยวนับแต่ช่วงสุดสัปดาห์ มีนักเดินทางติดค้างอยู่จำนวนมากหลังหลายเที่ยวบินยกเลิกการให้บริการในระยะนี้ สำหรับที่เมืองเกลนการี รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย มีหิมะตกหนัก 42 นิ้ว ส่วนในนครนิวยอร์คซึ่งมีหิมะตกหนักที่สุดนับแต่ปี 2412 รัฐบาลท้องถิ่นมีคำสั่งห้ามระบบขนส่งสาธารณะให้บริการเมื่อวันเสาร์ แต่ขณะนี้มีการยกเลิกคำสั่งนั้นแล้ว
+++นอกจากนี้ สถานที่ราชการในกรุงวอชิงตันและโรงเรียนหลายแห่งปิดทำการ 1 วัน ก่อนหน้านี้หิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์จากกรุงวอชิงตันไปถึงนครนิวยอร์ค มีคนเสียชีวิตแล้ว 29 ศพนับแต่วันเสาร์ ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ การสูดดมควันพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์และโรคหัวใจขณะใช้พลั่วขุดตักหิมะใกล้บ้าน โดยเมื่อวานนี้ชาวบ้านในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศเริ่มใช้พลั่วขุดหิมะออกจากรถยนต์ของพวกเขาและเปิดเส้นทางจราจรหลังถูกปกคลุมด้วยหิมะ
+++ในเอเชีย หลายประเทศก็ได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวเช่นกัน ทั้งไต้หวัน จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี และเวียดนาม จังหวัดเซินลา ไม่เคยเจอสภาพอากาศหนาวจัดเช่นนี้มาก่อน และกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของชุมชนและครอบครัว ขณะที่ตำรวจในเมืองซาปา เปิดเผยว่าไม่สามารถควบคุมการสัญจรได้ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้าออกเมืองนี้ เพื่อมาดูหิมะตก
+++การตรวจสอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ. ประจวบคีรีขันธ์ ประเด็นหักค่าหัวคิว นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า เดือนม.ค.นี้จะสามารถสรุปผลการตรวจสอบได้ เพราะได้เรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเกือบทั้งหมดแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจสอบข้าราชการที่ทุจริต ในล็อตที่ 4 จะเสนอในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ตั้งเป้าไว้ว่า จะรวบรวมรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับทุจริตทุก2-3 เดือน ซึ่งข้อเท็จจริงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้กลไกตรวจสอบทุจริตทำตามขั้นตอนปกติ ไม่ใช่การใช้อำนาจพิเศษเข้าไปจัดการ
+++เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ นายคำนูณ สิทธิสมาน เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิป สปท.) เปิดเผยหลังหารือกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ในวันที่ 3 ก.พ. นี้ เวลา 13.00น. กรธ. จะเป็นเจ้าภาพในการนัดประชุม สปท. และสภานิติบัญญัติ (สนช.) เพื่อรับฟังคำชี้แจงต่อเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับรับฟังความเห็นที่จะจัดทำแล้วเสร็จในวันที่ 29 ม.ค. นี้ โดยนายมีชัย ประสงค์ที่จะให้ที่ผู้ที่เข้าร่วมประชุมตั้งคำถามในประเด็นที่สงสัยด้วย และหลังจากเผยร่างแรกแล้ว คาดว่าจะแจกให้สมาชิกได้ไม่เกินวันที่ 1 ก.พ.
+++เรื่องการออกหมายจับ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช หรือเบียร์ อดีตรองผู้บังคับการกองปราบปราม ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และข้อหามีไว้ใช้และครอบครองวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดของพันตำรวจตรีปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง กรณีเบิกวิทยุสื่อสารออกไปจากกองตำรวจสื่อสาร สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยอ้างว่า จะนำไปใช้ในงานราชการ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ศาลทหารได้อนุมัติหมายจับพ.ต.อ.ศิวพงษ์ ส่วนจะมีข้าราชการยศพลตำรวจเอก เกี่ยวข้องหรือไม่ อยู่ระหว่างรอคำสั่งจาก พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมยืนยัน มีการติดตามตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีโดยส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามอย่างต่อเนื่อง และจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด พร้อมทั้งระบุว่า คดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ใกล้สิ้นสุดกระบวนการเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว
+++กระแสตุ๊กตาลูกเทพ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กำชับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เคร่งครัดและตรวจเข้มหากผู้โดยสารนำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่องบิน ชี้เป็นช่องทางลักลอบขนยาเสพติด
+++สอดคล้องกับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) กล่าวว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ก็มีหน่วยงานหลายหน่วยเฝ้าตรวจสอบอยู่แล้ว ปัจจุบันขบวนการลำเลียงยาเสพติดมีการเปลี่ยนวิธีการและเส้นทางในการลักลอบขนย้ายยาเสพติด กรณีที่มีความกังวลว่าหากนำ ตุ๊กตาลูกเทพ ขึ้นเครื่องบินและอาจไม่ได้ตรวจเรื่องความปลอดภัย ในความเป็นจริงแล้วเจ้าหน้าที่สนามบินทุกแห่งมีเครื่องตรวจสแกนวัตถุต้องสงสัยอยู่แล้ว จึงไม่น่าเป็นห่วง
+++นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน และรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เตรียมเรียกผู้ประกอบการสายการบินของไทยมาหารือไม่เกิน วันพฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. ถึงการกำหนดแนวทางปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารตามมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล หลังจากมีสายการบินบางสาย กำหนดแนวทางปฏิบัติการโดยสารอากาศยานของตุ๊กตาลูกเทพ ซึ่งหากเป็นประเภทสัมภาระตามมาตรฐานสากล การนำขึ้นบนเครื่องบินจะต้องเก็บไว้ 2 ที่ คือ จุดเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ และจุดเก็บสัมภาระใต้เบาะหน้าที่นั่ง แต่หากในของกรณีของผู้โดยสารตามมาตรฐานความปลอดภัยจะต้องระบุชื่อผู้โดยสารบนบัตรโดยสารด้วย
+++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.สั่งผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่นที่จ. เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ สมุย พัทยา ฯลฯ เข้มงวดผู้ให้บริการรถสาธารณะ โดยเฉพาะรถแท็กซี่ หลังที่อ.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากร้องเรียนแท๊กซี่เรียกเก็บค่าโดยสารแพงแทนการกดมิเตอร์ เรียกเก็บ 400 บาท โดยระยะทางไม่ถึง 1 กิโลเมตร ส่งผลกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย ให้จับกุมดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ยึดรถหรือใบอนุญาตขับขี่ ถ้าเจ้าหน้าที่รู้เห็นการกระทำผิดด้วยให้ลงโทษอย่างหนัก และหากประชาชนพบโทรแจ้งสายด่วน 1111 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ หรือที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทร 1584, 1337 ตลอด 24 ชั่วโมง
+++ดัชนีหุ้นไทย ปิดตลาดที่ 1,267.70จุด ลดลง 0.33จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,900.58 ล้านบาท ผันผวนในแดนบวกตลอดวัน ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างใกล้ชิดในวันที่ 26-27 ก.พ.
+++การลงทุนในตลาดหุ้นนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 152.38 จุด 17,110.91 จุด ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 259.63 จุด 19,340.14 จุด
CR:แฟ้มภาพ