บ่ายวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีกำหนดกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 2559 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ก่อนหน้านี้ นิตยสารยูเอส นิวส์ แอนด์ เวิลด์ รีพอร์ต จัดอันดับ 60 ประเทศที่ดีที่สุด ประจำปี 2016 โดยอันดับ 1 เป็นเยอรมนี รองลงมาเป็น แคนาดา อังกฤษ สหรัฐอเมริกา สวีเดน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก ส่วนประเทศจีนอยู่ในอันดับที่ 17 ขณะที่ไทย อยู่ในอันดับที่ 21 และเป็นหนึ่งประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ถูกจัดในอันดับสูงสุด โดยจัดให้มาเลเซียอยู่ที่อันดับ 28 ฟิลิปปินส์อันดับ 32 เวียดนามอันดับ 33 และอินโดนีเซียอันดับ 42 โดยในการจัดอันดับจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง 1 หมื่น 6 พันคนจากหลายประเทศทั่วโลก จากหัวข้อการผจญภัย พลเมือง อิทธิพลของวัฒนธรรม โอกาสการประกอบการ มรดกทางวัฒนธรรม การเคลื่อนตัว การเปิดให้ทำธุรกิจ อำนาจ และคุณภาพชีวิต ระบุว่า ประเทศไทยมีเศรษฐกิจ จีดีพี 3 แสน 8 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์ ประชากร 67 ล้าน 7 แสนคน รายได้ต่อหัวประชากร 14,354 ดอลลาร์ เป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวผจญภัยและเป็นประเทศเคลื่อนไหวไปข้างหน้า สูงเป็นอันดับ 4 จาก 60 ประเทศ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นอกจากการจัดอันให้ไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 60 อันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลกและอยู่อันดับ 6 ของประเทศที่เหมาะแก่การลงทุนมากที่สุด ป็นกระจกให้รัฐบาลได้ทราบถึงจุดแข็งจุดอ่อนของประเทศ เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาประเทศต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับทราบผลการจัดอันดับแล้ว และขอฝากขอบคุณถึงพี่น้องคนไทยทุกคน ที่มีส่วนช่วยกันดูแลความสงบรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยจนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะหยุดพัฒนาตนเองไว้เพียงเท่านี้ หากแต่หมายถึงกำลังใจที่จะช่วยให้พวกเราเดินหน้าพัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้น และไม่กลับไปอยู่ในวังวนแห่งความขัดแย้งที่ฉุดรั้งความก้าวหน้าของประเทศไทยอีก
ส่วนการทำงานในสัปดาห์สุดท้ายของการร่างรัฐธรรมนูญ นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า ในวันนี้ จะพิจารณาทบทวนรายมาตราส่วนที่เหลืออีก 80 มาตราให้เสร็จ จากนั้นตั้งแต่วันที่ 26-28 มกราคม จะพิจารณาในส่วนของบทเฉพาะกาล
ส่วนความเคลื่อนไหวภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีมติตัดขาดจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. และขอไม่รับผิดชอบต่อการบริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) ภายใต้การดูแลของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อีกต่อไป เนื่องกรณีที่มีสมาชิกพรรคเปิดเผยถึงความไม่โปร่งใสในการใช้งบประมาณและการบริหารของ กทม. แต่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เลือกจะไม่ชี้แจง และปฏิเสธการพูดคุยกับพรรค
ซึ่งเมื่อวานนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกทม.ไปพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่งานกิจกรรม Givers Ride and Run (วิ่งและปั่น) ในงานสมุยเฟสติวัล เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.สุราษฎร์ธานี
ด้าน ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากทม. กล่าวว่า เป็นกรณีระหว่างบุคคลกับองค์กร คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กับ พรรคประชาธิปัตย์ แต่งานของ กทม.ต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
ในวันนี้ พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ที่ทำเนียบรัฐบาล
นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้น จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ บริหารพนักงานร
นายมายาสุ โฮซูมิ (Mr.Mayasu Hosumi) ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) กรุงเทพฯ เข้าพบ พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานผลการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทญี่ปุ่นในไทย
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมสภากลาโหม จากนั้น พลตรีคงชีพ ตัณตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม จะเป็นผู้แถลงผลการประชุม
ส่วนปัญหาราคายางพารา ในวันนี้เป็นวันแรกที่จะเริ่มรับซื้อยางพาราโดยตรง ราคา 45 บาทต่อกิโลกรัม จำนวน 1 แสนตัน วงเงิน 5,729 ล้านบาท นายเชาว์ ทรงอาวุธ รักษาการผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่าจะเปิดบริการรับซื้อยางตั้งแต่ 09.00 น. เป็นต้นไป ที่สถาบันเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร รวม 834 จุด
สำหรับขั้นตอนการซื้อขายยาง ขอให้เกษตรกรนำบัตรประชาชนและใบทะเบียน ของ กยท.มาให้ตรวจสอบข้อมูล พร้อมทั้ง นำยางมาตรวจสอบคุณภาพ หลังตรวจสอบเสร็จสิ้น ทาง กยท.จะให้หลักฐานกับเกษตรกรเพื่อยืนยันว่า ได้รับซื้อยางจากเกษตรกรแล้ว ส่วนเงินจะได้รับการโอนไปยังบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายใน 2 วัน ซึ่งเกษตรกรทุกคนมีบัญชีอยู่
สำหรับวงเงินที่ กยท.ใช้ซื้อยาง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความให้ใช้เงินจากกองทุน กยท. แต่ในระหว่างนี้ ทางสำนักงบประมาณจะพิจารณาหาแหล่งเงินอื่นๆ มาให้ กยท.นำไปใช้ซื้อยางเพิ่ม คาดว่าจะนำเข้า คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 มกราคมนี้
*-*