*ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ติดตามการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลาง*

24 มกราคม 2559, 17:27น.

การสัมนาเชิงวิชาการเรื่อง การตื่นตัวของโลกอิสลามครั้งที่ 11 ในประเด็นวิกฤติการณ์ตะวันออกกลาง แผนทำลายเอกภาพมวลมนุษยชาติ พล.ท.สมชาย วิรุฬหผล อดีตอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กล่าวว่า ทุกวันนี้เป็นความขัดแย้งทางการเมืองและผลประโยชน์ในการส่งออกน้ำมันของสองประเทศคือซาอุดิอาระเบีย และอิหร่านที่พยายามจะเป็นผู้นำทางโลกมุสลิม เพราะชาวมุสลิมมีถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก แต่ไม่มีผู้นำที่แสดงถึงจุดยืนที่ต่อสู้กับภัยที่คุกคามของอิสลามที่ชัดเจน ซึ่งเวลานี้มองว่าเป็นสงครามทางวาทกรรมที่จะเดินเกมส์การเมืองระหว่างประเทศ

ขณะที่ นายศราวุฒิ อารีย์ รองผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โลกมุสลิมกำลังเผชิญกับวิกฤติที่หนักหนาสาหัส ซึ่งมองว่าเกิดทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน คือความไม่รู้ ไม่ค่อยมีการศึกษาในโลกมุสลิม ซึ่งประชากร 800 - 900 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 2 พันล้านคนไม่ได้รับการศึกษา รวมไปถึงการเผชิญกับภาวะความยากจน และความไม่สามัคคีกันในโลกมุสลิม ซึ่งชัดเจนว่ามีความแตกแยกสูงมาก ทั้งนี้ยังมองว่าปัญหาที่สำคัญมากที่สุดคือการศึกษา เพราะหากสามารถแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาได้มองว่าก็จะสามารถแก้ปัญหาได้

นายศราวุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางในขณะนี้คือวิกฤติการณ์ของการเปลี่ยนผ่าน ที่อาจจะเห็นการต่อสู้กันของการเผชิญหน้ากันระหว่างอุดมการณ์อย่างรุนแรง ระหว่างอาหรับชาตินิยมที่ไม่ยอมรวมศาสนากับการเมืองเข้าด้วยกัน และอีกอันหนึ่งคือกลุ่มที่นิยมแนวทางอิสลาม ดังนั้นสงครามที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในความขัดแย้งในแนวความคิด ซึ่งปรากฎการณ์ที่ทำให้โลกเห็นอย่างชัดเจนคือเหตุการณ์อาหรับสปริง ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เห็นว่าคนเลือกแนวทางอิสลามมากขึ้น นอกจากนี้ กระแสของสงครามกลางเมืองรอบใหม่ในตะวันออกกลาง (อาหรับโคลวอร์) ​ก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตา นี่คือกระแสเปลี่ยนผ่านที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาพยายามให้เข้าใจว่าไม่ได้เป็นประเด็นทางศาสนา
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี
ข่าวทั้งหมด

X