ตามที่มีกระแสข่าวว่าพนักงานสอบสวน ในคดีแอบอ้างสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้เดินทางไปขออำนาจศาลอาญารัชดา เพื่อออกหมายจับ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช อดีตรองผู้บังคับการกองปราบปราม ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และข้อหามีไว้ใช้และครอบครองวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ต. ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรมและผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดี ขอให้เป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการชี้แจง
ขณะที่ พล.ต.อ.เดชณรงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีการออกหมายจับ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ และไม่ทราบว่าออกหมายจับในข้อหรือมาตราอะไร ซึ่งจากการตรวจสอบไปยังกองบังคับการปราบปราม ทราบว่าเรื่องยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะกำลังตรวจสอบอยู่ ถ้าหากได้ข้อสรุปแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
สำหรับการออกหมายจับพ.ต.อ.ศิวพงษ์ นั้นมาจากการขยายผลกรณีชุดสืบสวนตรวจค้นห้องพักภายในคอนโดลาเมซอง ของพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด อดีตรองสารวัตรกองบังคับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยในการตรวจค้นห้องพักในครั้งนั้นพบวิทยุสื่อสารโมบาย พร้อมเสาวิทยุ 5 ต้นอยู่ในห้องพัก รวมทั้งพบวิทยุสื่อสารแบบพกพากว่า 200 เครื่อง
ทั้งนี้จากการตรวจสอบวิทยุสื่อสารแบบพกพาพบว่า พ.ต.ต.ปรากรมเป็นผู้ขอเบิกวิทยุสื่อสาร ออกไปจากกองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 100 เครื่อง โดยอ้างว่าจะนำมาใช้ในงานราชการ ซึ่งมีพ.ต.อ.ศิวพงษ์ เป็นผู้นำมามอบ
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ ปรากฏเป็นข่าวและเป็นที่จับตาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหมิ่นสถาบัน ฯ ของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง และพ.ต.ต.ปรากรม เพราะทันทีที่มีการจับกุมเครือข่าย พ.ต.อ.ศิวพงษ์ได้ถูกให้มาช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ศปก.บช.ก.) และได้สมัครใจลาออก ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. 2558
....
สมจิตร์ พูลสุข