การประชุมติดตามเรื่องการซื้อยางพารา คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด)การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ประชุมร่วมกับนางจินตนา ชัยยวรรณาการ ผู้ช่วยรมว.เกษตรฯ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ นายเชาว์ ทรงอาวุธ ผู้ปฎิบัติหน้าที่ผู้ว่ากยท. และผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อวางแนวทางดำเนินการรับซื้อยาง 1 แสนตันจากชาวสวนยาง วงเงิน 4.5 พันล้านบาท ตามโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ
นายเลิศวิโรจน์ กล่าวว่า วันที่ 25 ม.ค.นี้เป็นวันแรก เริ่มเวลา 09.00 น. ให้สิทธิรายละ 150 กิโลกรัม ตั้งจุดรับซื้อในภาคใต้ 400 กว่าจุด ภาคตะวันออก 30 จุด ภาคอีสาน 200 จุด และภาคเหนือ 200 จุด จะเปิดจุดรับซื้อถึงวันที่ 30 มิ.ย. ดังนั้นเกษตรกรไม่ต้องรีบ อย่างไรก็ตามในวันที่ 26 ม.ค.นี้ จะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อให้พิจารณาแหล่งที่มาของเงินเพิ่มเติมจาก 500 ล้านบาท ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ตั้งจุดรับซื้อ 834 จุด เพื่อนำมาใช้ตามความต้องการของกระทรวงต่าง ๆ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะขายยางได้ราคาสูงกว่าตลาด ยืนยันว่าการรับซื้อจะไม่มีเกษตรกรตัวปลอมแน่นอน เพราะมีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรสวนยาง มีการทำประชาคมติดประกาศในหมู่บ้าน 15 วัน ในพื้นที่รู้หมด นอกจากนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้ส่งกำลังทหารมาร่วมดูแลด้วย ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ลงไปในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.แล้ว เพื่อทำหน้าที่ประสานงานให้ความสะดวกแก่เกษตรกร และช่วยดูแลให้โปร่งใสมากที่สุด
ด้านนายเชาว์ กล่าวว่า มาตรการใช้ยางภาครัฐปี 2559 มีปริมาณ 7-8 หมื่นตัน ทำให้ตลาดตอบรับราคาดีต่อเนื่อง จนขณะนี้ราคายางปรับขึ้นทุกตัว ยางแผ่นดิบกิโลกรัมละ 38 บาท ส่วนเกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนกับ กยท. มี 1.2 ล้านราย เป็นคนกรีดยาง 2 แสนราย และได้เปิดให้เกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเพิ่มด้วย จะมีการรับซื้อยางทั้ง 3 ชนิดทั้งยางแผ่นดิบ น้ำยางสด ยางก้อนถ้วย โดยบอร์ดกยท.เห็นชอบวงเงินก้อนแรกใช้เงินในโครงการนี้ 5,479 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ให้กฤษฎีกาตีความแล้ว กยท.สามารถใช้เงินทุนประเดิมก้อนแรก 500 ล้านบาท ที่บอร์ด กยท.สามารถอนุมัติได้ โดยเข้ารับซื้อ