*ป.ป.ช.เตรียมแจงกรธ.เรื่องเวลาไต่สวนคดี/รรท.ผบช.น.สอบมือยิงเพื่อนบ้านเหตุขัดแย้งที่จอดรถ/ จุฬาฯพบแมงมุมมีพิษที่กาญฯ*

+++พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุระยะเวลาการไต่สวนคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภายใน 1 ปี และต่ออายุได้ 2 ครั้งๆ ละ 4 เดือน (รวม 1 ปี 8 เดือน) ว่า เบื้องต้นคณะกรรมการ ป.ป.ช.หารือประเด็นนี้กันบ้างแล้ว  การทำงานของ ป.ป.ช.เมื่อเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบคดีทุจริต ต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานให้รอบคอบ เข้าใจว่าสังคมคาดหวังให้การทำงานของ ป.ป.ช.ดำเนินการคดีทุจริตด้วยความรวดเร็ว แต่จำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้รอบด้านด้วย เพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด  ขณะนี้มีคดีที่อยู่ในชั้นแสวงหาข้อเท็จจริงประมาณ 7 - 8 พันคดี ชั้นตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนประมาณ 2 พันคดี และคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นองค์คณะไต่สวนประมาณ 50 คดี ซึ่ง ป.ป.ช.ดำเนินการเร่งรัดอยู่ และกำหนดกรอบด้านคดีด้วย ดังนั้น หากจะให้ตรงเวลาตามที่ กรธ.บัญญัติมา ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี และกรณีจำเป็นต้องมีกลไกเพื่อขยายระยะเวลาได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง

+++กำหนดระยะเวลาไต่สวนเหลือเพียง 1 ปี 8 เดือน จะทำคดีต่างๆ ทันหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้หารือเรื่องนี้กันแล้ว มีคำสั่งลงไปให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติดำเนินการอยู่ และเตรียมจะปรับปรุงระเบียบการไต่สวนใหม่ให้เกิดความรวดเร็วมากขึ้น เมื่อกรธ.ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกออกมาแล้ว จะมีช่วงเวลาที่เปิดรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ป.ป.ช.ได้ให้เจ้าหน้าที่เตรียมข้อมูลในส่วนนี้แล้ว เพื่อส่งให้ กรธ.พิจารณาถึงข้อเท็จจริง และกลไกในการไต่สวนคดีทุจริตด้วย

+++ติดตามการประชุมเรื่องยางพารา ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการแก้ปัญหายางพาราราคาตกต่ำ ในภาพรวม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมหน่วยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหา โดยมีมติ คณะรัฐมนตรี(ครม.)หลายมติเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะการรับซื้อยางพาราจากเกษตรกร ซึ่งให้ส่วนราชการนำยางที่ซื้อมาไปดำเนินการในกิจการต่างๆ ของส่วนราชการ เช่น ทำถนน ยางเคลือบบ่อน้ำ ปูพื้นคอกเลี้ยงสัตว์ ทำที่นอนหมอนของหน่วยทหาร โดยได้มีการประชุมเพื่อดูปริมาณยางที่ใช้แต่ละประเภท และนำข้อมูลส่งต่อคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวม ยังไม่มีตัวเลขสุดท้าย รอบางหน่วยงานที่ยังเก็บข้อมูลอยู่ ยืนยันจะทำร่วมกันอย่างรัดกุม

+++เปิดตลาดหุ้นไทย ภาคเช้า ดัชนีปรับตัวลดลงแรงอีกครั้ง สอดคล้องตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) โลก ทั้งปี2559 และ 2560 อีกครั้ง สะท้อนภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวยังไม่จบไป ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังอ่อนแอ และไร้ปัจจัยบวกสนับสนุนในช่วงนี้ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะเทขายทำกำไรออกมาหนาแน่น  แต่หวังแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการปี 2558 เข้ามาช่วยหนุนเป็นระยะ เริ่มต้นจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ทยอยประกาศออกมาแล้วมีอัตราหนี้เสียที่ค่อนข้างลดลง  ส่งผลให้เปิดตลาดที่ 1,253.17 จุด ลดลง12.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,838.39 ล้านบาท หุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้า ร่วง 10.78จุด ที่ระดับ 1,255.23 จุด มูลค่าซื้อขาย 19,519.32ล้านบาท         

+++เหตุยิงเพื่อนบ้านเรื่องที่จอดรถในพื้นที่บางชัน เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำ นายทศพร พิทักษ์วัฒนานนท์ อายุ 34 ปี คนร้ายที่ประสานตำรวจขอเข้ามอบตัว หลังศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.) สอบปากคำด้วยตัวเอง นายทศพร ใช้ปืนยิงนางศิริลักษณ์ หรือเจ๊หมวย แซ่ฮ้อ อายุ 46 ปี นายมูเลาะห์ หรือบังดำ บินอุหมัด อายุ 48 ปี และนายพาด ชาวกัมพูชา เสียชีวิต สาเหตุมาจากทะเลาะกันเรื่องจอดรถ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 18 มกราคม ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้เกิดจากการพูดโต้เถียงกัน เป็นเรื่องของอารมณ์ มีการใช้อาวุธทำร้ายจนถึงแก่ความตาย

+++ทีมวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงค้นพบแมงมุมสันโดษเมดิเตอร์เรเนียน  จุดที่พบอยู่ที่อ. ไทรโยค จ. กาญจนบุรี มีพิษร้ายแรง แม้จะมีพิษรุนแรง มีคนโดนกัดร้อยละ 10 ส่วนใหญ่ มีอาการตุ่มแดงคล้ายยุงกัด ขออย่าตื่นตระหนก พบการกระจายในวงจำกัด ดร.ณัฐพจน์ วาฤทธิ์ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า การค้นพบแมงมุมสันโดษเมดิเตอร์เรเนียน ครั้งแรกในประเทศไทย ที่อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่า เป็นสายพันธุ์เดิมที่ถูกค้นพบมานานแล้ว และพบได้ในเมดิเตอร์เรเนียน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากการขนอาวุธเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณที่พบเป็นถ้ำที่ไม่มีชื่อ เป็นพื้นที่ปิดของทหาร ซึ่งประชาชนไม่สามารถเข้าไปได้อยู่แล้ว (ในระยะ 20 ตารางเมตรหรือบริเวณใกล้เคียงยังไม่พบแมงมุมชนิดนี้) แมงมุมที่พบมีพิษรุนแรงติดอันดับโลก และจะทำลายเนื้อเยื่อ ลักษณะจะเป็นแผลเหมือนยุงกัด แต่ถ้าคนที่มีอาการแพ้จะทำให้เนื้อบริเวณบาดแผลตาย และเกิดหนองใต้ผิวหนัง ยังไม่มีเซรุ่ม จะใช้วิธีการรักษาโดยการรักษาตามอาการ