*รมว.เกษตร ฯยืนยัน จะไม่มีการสวมสิทธิ์นำยางพาราจากปท.เพื่อนบ้านมาเวียนเทียนขายแน่นอน*

ความกังวัลของนายกรัฐมนตรี กรณี การเวียนเทียนนำยางพาราเข้ามาขายให้กับภาครัฐ  พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่าจะไม่มีการสวมสิทธิ์นำยางพาราจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายปะปนอย่างแน่นอน พร้อมย้ำว่า โครงการรับซื้อยางพาราไม่เหมือนโครงการรับจำนำข้าวเพราะการรับซื้อยางพาราเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคายางและมีเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนออกมาเคลื่อนไหว ไม่ใช่การรับซื้อข้าวทุกเมล็ด

ส่วนผลการประชุมภายในหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานตัวเลขที่สั่งการให้ไปรวบรวมว่าแต่ละหน่วยงานจะรับซื้อยางพาราได้จำนวนเท่าใด เช่นเดียวกับ ยังไม่ได้ข้อสรุปการใช้งบประมาณของแต่ละกระทรวง เบื้องต้น การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมงบประมาณทั้งหมด 5,479 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณวงเงินการรับซื้อ 4,500 ล้านบาท ค่าแปรรูปค่าขนส่ง 739 ล้านบาท ค่าเก็บรักษา 150 ล้านบาท คาดดำเนินงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ 90 ล้านบาท เช่น กยท. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์การคลังสินค้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และสำนักงบประมาน หลักเกณฑ์ในการรับซื้อยางคือเกษตรกรรายย่อยที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ตามพ.ร.บ.การยางฯ  มีบัญชีธนาคารกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)  เนื่องจาก เจ้าหน้าที่เมื่อเกษตรกรนำน้ำยาง ยางก้อนถ้วย ยาวแผ่นดิบมาขาย เจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูลลงในระบบอิเล็กทรอนิกส์ และออกเป็นเอกสารให้แก่เกษตรกร หลังจากนั้นจะจ่ายเงินให้เกษตรกรเข้าบัญชี ธ.ก.ส. ภายใน 2 วัน

โดย เกษตรกรจะได้สิทธิ์ขายยางพาราไม่เกินรายละ 15 ไร่ ไร่ละ 10 กิโลกรัม รวมทั้งหมดไม่เกิน 150 กิโลกรัม ซึ่งกยท.จะตั้งจัดรับซื้อไว้ทั่วประเทศ 1,500 จุดโดยมีเจ้าหน้าที่กยท. คสช. หน้าที่กระทรวงเกษตรฯ  กระทรวงมหาดไทย และมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์ โดยจะเริ่มดำเนินการรับซื้อภายในวันที่ 25 ม.ค. ความคืบหน้าโครงการชดเชยรายได้แก่ชาวสวนยางพารา และคนกรีดยางไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกินครัวเรือนเรือนละ 15 ไร่ มีเกษตรกรในฐานข้อมูลของ กยท. แล้ว 798,919 ครัวเรือน แบ่งเป็นชาวสวนและกรีดเอง 235,026 คน คนกรีด 7,049 คน ชาวสวนจ้างต่างด้าว 30,453 คน ทั้งนี้ มีเกษตรกรที่ได้รับการรองรับสิทธิ์แล้ว 103,799 คน โดย กยท. จะประมวลข้อมูลส่ง ธ.ก.ส. ในวันที่ 21-22 ม.ค. และจะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรในวันที่ 22-24 ม.ค. คาดว่า จะได้รับเงินภายในวันที่ 25 ม.ค.นี้ อย่างแน่นอน