*บอร์ดสสส.นัดประชุม22 ม.ค./ป๋าเปรม–นายกฯร่วมวันกองทัพบก/ปภ.เผย14จังหวัดประสบภัยแล้ง*

20 มกราคม 2559, 07:15น.


+++สภาพอากาศ และสถานการณ์ภัยแล้ง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยว่า หลายพื้นที่ของประเทศได้รับผลกระทบภัยแล้งอย่างหนัก ปัจจุบันมีประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว 14 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ เชียงราย อุตรดิตถ์ พะเยา และเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มหาสารคาม นครราชสีมา นครพนม ขอนแก่น ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ ภาคตะวันออก สระแก้ว ภาคกลาง พิษณุโลก พิจิตร และ ภาคตะวันตก กาญจนบุรี รวม 72 อำเภอ 371 ตำบล  ปภ.เฝ้าระวังจุดเสี่ยงลักลอบสูบน้ำ และปัญหาแย่งน้ำ



+++ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กลุ่มกรุงเทพฯ ตะวันออก 9 เขต ประกอบด้วย หนองจอก คลองสามวา ลาดกระบัง มีนบุรี สะพานสูง บางกะปิ คันนายาว ประเวศ และบึงกุ่ม มีพื้นที่การเกษตรทั้งหมด 1 แสน 28,862 ไร่ 8,286 ครัวเรือน มีพื้นที่ที่คาดว่าจะประสบภัยแล้ง 59,390 ไร่ เกษตรกรที่คาดว่าจะประสบภัยแล้ง 3,869 ครัวเรือน กรมชลประทาน แจ้งสถานการณ์น้ำในเขื่อนมีปริมาณน้อย ใช้เพื่ออุปโภคและบริโภครวมทั้งรักษาระบบนิเวศได้ แต่ไม่สนับสนุนให้มีการทำการเกษตร โดยปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล ร้อยละ 37 เขื่อนสิริกิติ์ ร้อยละ 50 เขื่อนแควน้อย ร้อยละ 42 และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ร้อยละ 55



+++สำนักการระบายน้ำ รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.มีปริมาณน้ำน้อย จึงเตรียมแผนการแก้ปัญหาระยะสั้น โดยการผลักดันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่คลองต่างๆ เพื่อเก็บกักน้ำที่จะใช้บรรเทาช่วงหน้าแล้ง



+++ส่วนระยะยาวกำหนดพื้นที่แก้มลิงเพิ่มอีก 10 แห่ง เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ได้แก่ 1.คลองหม้อแตก รับน้ำได้ 9 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) 2.คลองพระยาสุเรนทร์ รับน้ำได้ 1.6 ล้านลบ.ม. 3.คลองคู้บอน รับน้ำได้ 7 แสนลบ.ม. 4.คลองบางชัน รับน้ำได้ 2 แสนลบ.ม. 5.คลองสามวา (1) รับน้ำได้ 9 แสนลบ.ม. และ 6.คลองสามวา (2) รับน้ำได้ 7 แสนลบ.ม. โดยมอบให้สำนักการโยธา สำรวจพื้นที่เพื่อขอเวนคืนที่ดินบริเวณดังกล่าว ส่วนพื้นที่อีก 4 แห่ง อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อขอใช้พื้นที่เป็นพื้นที่แก้มลิง โดยอาจเช่าหรือซื้อพื้นที่ ซึ่งแก้มลิงทั้ง 10 แห่งจะรับน้ำได้ 6 แสนลบ.ม.



+++ไปที่จ.เชียงใหม่ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เทศบาลเดินหน้าฉีดพ่นละอองน้ำทั่วเมืองเชียงใหม่และเร่งรณรงค์ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงหน้าแล้งและช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหา สาเหตุหลักเกิดจากไฟป่า การเผาขยะในที่โล่ง ฝุ่นละอองจากถนน การก่อสร้างและเขม่าน้ำมันดีเซลจากท่อไอเสียรถยนต์ ทำให้เกิดมลพิษจากหมอกควันไฟป่าและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินกว่ามาตรฐาน กระทบต่อสุขภาพประชาชนสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจ จังหวัดลดปริมาณฝุ่นละออง ในอากาศด้วยมาตรการ 3 ด้าน คือ การงดใช้รถควันดำ การควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง งดเผาขยะในที่โล่ง



+++ติดตามการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เป็นประธานพิจารณาเรื่องราคาน้ำมันดีเซล หลังราคาขายปลีกลดลงต่ำกว่าลิตรละ 20 บาท เห็นว่าอาจต่ำเกินไปทำให้ไม่ใช้อย่างประหยัด และไม่ได้ทำให้ค่าครองชีพลดลง มีรายงานว่า อาจเลือกตัดสินใจเพิ่มอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงขึ้นอย่างน้อยลิตรละ 40 สต.จากปัจจุบันจัดเก็บเป็นศูนย์ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ค่าการตลาดดีเซลอยู่ที่ 2.18 บาท/ลิตร  นอกจากนี้ จะเสนอแผนปฏิบัติการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) โดยจะปล่อยลอยตัวราคาเอ็นจีวีให้สะท้อนต้นทุน ซึ่งยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า ตามราคาก๊าซในตลาดโลก



+++ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบให้ข้าวสาลี, ลำไย, ทุเรียน และมังคุด เป็นสินค้าควบคุมเพิ่มเติมอีก 4 รายการ จากสินค้าเดิมที่คุมอยู่แล้ว 38 รายการ เป็น 42 รายการ และบริการอีก 3 รายการ มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.เป็นต้นไป เพราะกฎหมายฉบับเดิมมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 25 ม.ค. 2559  การเพิ่มสินค้าควบคุมดังกล่าว เนื่องจากพบว่า มีการนำเข้าสินค้าประเภทข้าวสาลีจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้อข้าวสาลีกันมาก ขณะที่ผลไม้คือ ลำไย, ทุเรียน และมังคุด มักจะมีปัญหาเรื่องราคาตกเมื่อมีผลผลิตออกมาสู่ท้องตลาดจำนวนมาก



+++เรื่องยางพารา วันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นัดหารือ 4 หน่วยงาน และ พล.อ. ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ถึงแนวทางจัดหางบประมาณรับซื้อยางพารา รัฐบาล จัดสรรงบประมาณ 5.4 พันล้านบาท เริ่ม 25 ม.ค.นี้ 1,500 จุดทั่วประเทศ ภาพรวมปริมาณการใช้ยางของกระทรวงต่าง ๆ ยังไม่เรียบร้อย พยายามผลักดันให้ใช้งบประมาณปกติในการช่วยเหลือตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ต้องพิจารณาว่าในปีนี้แต่ละกระทรวงมีงบประมาณเท่าใด และนำมาปรับเปลี่ยนและสนับสนุนการใช้ยางภายในประเทศ



+++สิ่งที่รีบร้อนคือการเข้ารับซื้อยางกับเกษตรกรก่อนเหมือนกันหมดทั้งประเทศ ทั้งยางดิบ น้ำยาง ยางก้นถ้วย โดยจะรับซื้อจากเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีหลายส่วนงานเข้าไปดูทั้งกระทรวงมหาดไทยผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) เพื่อให้เกิดความชัดเจนโปร่งใส ปัจจุบันราคารับซื้อขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 45 บาท โดยใช้งบประมาณที่ได้เสนอไป 4,500 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังสำนักงบประมาณและคณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีการประชุมพิจารณากันในวันที่ 20 ม.ค. นี้ว่าจะใช้งบประมาณจากส่วนไหนและยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการช่วยเหลือราคายางในส่วนของกระทรวงกลาโหม ว่าในปีนี้กระทรวงกลาโหม มีแผนจะใช้ยางประมาณ 6,000 ตัน  แต่เบื้องต้นจะใช้ปริมาณพันกว่าตัน โดยจะใช้ในการทำยางรถยนต์ ที่ นอนยาง ส่วนในปีหน้าจะมีความต้องการใช้มากถึง 15,000 ตัน ในการทำหลายอย่างทั้งที่นอนและรองเท้า



+++พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงน่าจะรับซื้อประมาณ 50,000 ตัน วันนี้ กระทรวงมหาดไทย มีการประชุมหารือข้อราชการ คาดว่าน่าจะคุยเรื่องนี้ด้วย



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยากให้ 8 กระทรวงเสนอที่ประชุม ครม. ว่าจะมีการสั่งซื้ออะไรบ้างผลิตภัณฑ์ที่ผลิตต้องมีมาตรฐานต้องเขียนของใหม่มา เร่งสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากยางพารา



+++เรื่องคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการออกคำสั่งตามมาตรา 44 ของหัวหน้าคสช. แก้ไขปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของบอร์ดสสส. เป็นการชั่วคราว โดยให้นายชำนาญ พิเชษฐพันธ์ เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 2 ว่า ตามโครงสร้างมีคณะกรรมการรวม 21 คน ประธาน 1 คน รองประธาน 2 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 8 คน กรรมการโดยตำแหน่ง 10 คน  ดังนั้น เมื่อแต่งตั้งให้นายชำนาญเป็นรองประธานถือเป็นคณะกรรมการที่มีอำนาจเต็มสามารถพิจารณางบประมาณได้ คณะกรรมการต้องเร่งสรรหารองประธาน 1 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน ให้เป็นไปตามระเบียบของ สสส.  คณะกรรมการทั้ง 7 คนที่ถูกปลดสามารถสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ สสส.ได้



+++ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธานบอร์ด สสส.คนที่ 1  กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวทำให้บอร์ด สสส.เดินหน้าทำงานได้  และจากหารือกับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี และประธานบอร์ด สสส. คาดว่าจะมีการประชุมบอร์ดในวันที่ 22 มกราคม 2558 อาจมีการรับรองการปรับแก้ระเบียบต่างๆ ตามที่  นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการพิจารณาเสนอความเห็นในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลำดับรองที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทุน สสส.ได้เสนอไว้  ซึ่งในการปรับแก้ระเบียบเหล่านี้ น่าจะทำให้การทำงานชัดเจนขึ้น



+++เช้านี้ พลเอกธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) มอบหมาย พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ แม่ทัพภาคที่ 1 ทำหน้าที่ประธานวันสถาปนา กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ที่บางเขน



+++ค่ำนี้  พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรี ร่วมงานเลี้ยง วันกองทัพบกปี 2559  ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี



+++พลเรือเอก ณรงค์  พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติราชการเขตตรวจราชการที่ 6 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ ฝั่งอ่าวไทย ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี



+++ด้านรองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอกประจิน  จั่นตอง  เดินทางไปปฎิบัติภาระกิจที่จังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานี



CR:แฟ้มภาพ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X