*IMFเตือนน้ำมันลดฉุดศก.ต่ำลง/UNชี้เหตุในอิรักสูงน่าตกใจ/ภูเขาไฟอินโดฯระเบิด*

20 มกราคม 2559, 05:53น.


+++นานาชาติ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน หลังการตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์ แต่การยกเลิกการคว่ำบาตรดังกล่าวจะส่งผลต่ออิหร่านและทั่วโลกอย่างไร นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล โต้แย้งว่า ข้อตกลงนี้จะส่งผลให้อิหร่านกลายเป็นมหาอำนาจทางนิวเคลียร์ในอีก 15 ปีข้างหน้า ระบุว่าอิสราเอลจะเฝ้าติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างใกล้ชิด



+++เพื่อนบ้านของอิหร่าน หวั่นวิตก การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจะส่งผลให้อิหร่านกลับมาเป็นสมาชิกที่มีบทบาทสำคัญอีกครั้งในประชาคมระหว่างประเทศ แน่นอนที่สุดคือ ความเข็มแข็งของอิหร่าน หวั่นเกรงอิหร่านจะเข้าไปพัวพันในการคลี่คลายปัญหาขัดแย้งในอิรัก ซีเรียและเยเมน



+++ขณะเดียวกันสหรัฐฯและชาติตะวันตก ต้องการความช่วยเหลือจากอิหร่านในการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) จึงต้องการจะประสานความร่วมมือกับอิหร่านเพื่อช่วยหาทางยุติปัญหาขัดแย้งในซีเรีย



+++รอยเตอร์ รายงานอ้างกลุ่มเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชนซีเรียในกรุงลอนดอน อังกฤษ รายงานว่า การสู้รบระหว่างกองกำลังรัฐบาลซีเรียกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในพื้นที่ภาคตะวันออกของซีเรีย ตลอดช่วง 3 วัน มีทหารซีเรียเสียชีวิต 120 นาย ไอเอส เสียชีวิต 70 ศพ กลุ่มไอเอส พยายามจะแย่งชิงพื้นที่ของกองกำลังรัฐบาล



+++ด้านนายเซอิด ราอาด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์) รายงานล่าสุดของสำนักงานช่วยเหลืออิรักของยูเอ็นและยูเอ็นเอชซีอาร์ บ่งชี้ว่า ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2557 เหตุรุนแรงต่อพลเรือนในอิรักยังคงอยู่ในอัตราที่สูงอย่างน่าตกใจ มีคนเสียชีวิต 18,802 ศพและบาดเจ็บ 36,245 คน ทำให้ผู้อพยพชาวอิรักหาทางหลบหนีเหตุรุนแรงในประเทศ เพื่อเข้าไปยังยุโรปและภูมิภาคอื่นๆของโลก นอกจากนี้ ประชาชน 3.2 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัยในอิรัก



+++ไอเอส ระบุว่า การก่อเหตุรุนแรงรวมถึงการลักพาตัวเด็กและเยาวชน 900 คนในเมืองโมซูลทางภาคเหนือไปเข้ารับปลูกฝังอุดมการณ์กลุ่มหัวรุนแรง และรับการฝึกอบรมทางทหาร การจับสตรีและเด็กจากชนเผ่ายาซาดี 3,500 คนไปเป็นทาส



+++นายแจน คูบิส ผู้แทนพิเศษยูเอ็นประจำอิรัก เรียกร้องรัฐบาลอิรักใช้ทุกช่องทางรักษาความสงบเรียบร้อย ช่วยให้ประชาขนสามารถกลับไปใช้ชีวิตยังภูมิลำเนาเดิมของตนได้ตามปกติสุข ยูเอ็นประเมินว่าเหตุรุนแรงในอิรักนับแต่ปี 2554 มีคนเสียชีวิตกว่า 2 แสน 50,000 ศพ



+++กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงมากเกินไปในขณะนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นปัจจัยฉุดเศรษฐกิจโลกไม่ให้เติบโต มากกว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่เคยคิด รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุดที่ไอเอ็มเอฟ เผยแพร่ระบุว่า ปกติแล้วราคาน้ำมันถูก มักกระตุ้นความต้องการบริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่น้ำมันเป็นต้นทุนสำคัญของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ แต่ราคาน้ำมันที่ร่วงไปแล้วร้อยละ 70 ในช่วง 18 เดือนส่งผลให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเกิดความตึงตัวทางการเงิน ทำให้ความต้องการบริโภคในประเทศหดตัว ขณะที่บริษัทน้ำมันและก๊าซพากันลดการลงทุน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ



+++ไอเอ็มเอฟ ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ราคาน้ำมันถูกแต่ความต้องการใช้น้ำมันกลับไม่เพิ่มขึ้น สาเหตุอาจเกิดจากราคาน้ำมันที่ไปถึงมือผู้บริโภคไม่ได้ถูกตามไปด้วย



+++ไอเอ็มเอฟ ปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และเตือนว่าเศรษฐกิจเกิดใหม่เผชิญความเสี่ยงสำคัญหลายอย่าง คาดว่า เศรษฐกิจโลกปี 2559 จะขยายตัวร้อยละ 3.4 ลดลงจากที่ประมาณการไว้เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อนว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.6



+++จีน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.3 ลดลงจากร้อยละ 6.9 ในปีที่แล้ว และจะลดลงต่อเนื่องในปีหน้า ขณะที่ลาตินอเมริกาทั้งภูมิภาคจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพราะเศรษฐกิจของประเทศใหญ่อย่างบราซิลน่าจะหดตัวร้อยละ 3.5 ต่อเนื่องจากปี 2558 ที่หดตัวร้อยละ 3.8



+++ไอเอ็มเอฟ มองภาพรวมเศรษฐกิจโลกปีนี้ว่า การค้าและการลงทุนจะชะลอตัว ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะลดลงอย่างหนัก นำโดยน้ำมัน ปีนี้จึงจะเป็นปีท้าทายที่สำคัญ ผู้กำหนดนโยบายประเทศ ควรคำนึงถึงการฟื้นตัวระยะสั้นและทางที่จะส่งเสริมเรื่องนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจเกิดใหม่และโลกกำลังพัฒนาที่เผชิญความเสี่ยงหลายอย่าง ทั้งเรื่องราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงตามความต้องการนำเข้าจากจีนที่ลดลงเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว อาจต้องลดค่าเงิน ตามเงินหยวนจีนที่อ่อนลง สหรัฐฯ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย เหตุวุ่นวายทางการเมืองและความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายประเทศ



+++สถานการณ์ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แถลงการณ์ของบริษัทเอสอีทีอี ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนหอไอเฟลสัญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงปารีส ลดลงนับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีเมื่อเดือนพ.ย.ปี2558 6.91 ล้านคน  เปรียบเทียบนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนหอไอเฟลเมื่อปี2557 มีจำนวน 7.1ล้านคน หลังเหตุมือปืนและมือระเบิดฆ่าตัวตายในนามของกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส โจมตีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และโรงละครสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตรวมถึงสนามกีฬาแห่งชาติในกรุงปารีสเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13พ.ย.ปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต130ศพ ฝ่ายบริหารแจ้งว่านักท่องเที่ยวยังลังเลที่จะไปเยือนหอไอเฟลในช่วง2สัปดาห์หลังเหตุโจมตี นอกจากนี้ ทำให้ธุรกิจโรงแรมของฝรั่งเศสสูญเสียรายได้ ราว270ล้านยูโร(ราว10,773ล้านบาท)และจะยังส่งผลกระทบเช่นนี้ต่อไปอีกหากจำนวนแขกที่ไปใช้บริการยังลดน้อยลง  

+++เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของปากีสถาน เปิดเผยว่า คนร้ายมือระเบิดฆ่าตัวตายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะพุ่งชนรถตำรวจคันหนึ่งที่จอดอยู่ติดกับด่านตรวจของตำรวจในเขตนอกเมืองของเมืองเปชวาร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ช่วงชั่วโมงเร่งด่วนของเช้าวันอังคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต อย่างน้อย10ศพและบาดเจ็บอีก42คน มีร้านค้าอีก3แห่ง รถยนต์หลายคันและรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายด้วย กลุ่มตอลีบันปากีสถาน ประกาศอ้างความรับผิดชอบ



+++นายซิลวานุส โทบี เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการพิบัติภัยแห่งชาติของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ชาวบ้านกว่า1,200คนที่อาศัยอยู่ในรัศมี3กิโลเมตรโดยรอบภูเขาไฟอีกอนบนเกาะฟลอเรสทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือนที่อาศัยและยังมีการสั่งปิดถนนโดยรอบ เนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟอีกอน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านรอบภูเขาไฟ หลังจากการปะทุของภูเขาไฟทวีความรุนแรงขึ้นมามีทั้งพ่นเถ้าละอองและแก๊สพิษที่เป็นอันตรายขึ้นไปในอากาศ เจ้าหน้าที่ยังได้เตรียมความพร้อมหากต้องขยายพื้นที่การอพยพออกไปอีก หากพบว่า อันตรายจากการปะทุของภูเขาไฟอีกอนยังไม่ลดลง ภูเขาไฟอีกอนส่อเค้าการปะทุมาตั้งแต่เดือนธ.ค.แต่เพิ่งจะทวีความรุนแรงในช่วง2-3วัน ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพออกจากหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัย และเป็นหนึ่งในจำนวน129ภูเขาไฟของอินโดนีเซียที่ยังคงคุกรุ่นอยู่



CR:Reuters



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X