การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. ที่มีร้อยเอกทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท. เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาแผนขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสื่อมวลชน ที่เสนอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช.
โดยมีประเด็นสำคัญคือการเสนอ การยุบบอร์ดคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. และปรับจำนวนคณะกรรการ กสทช. จากเดิม 11 คน เหลือ 7 คน พร้อมปรับคุณสมบัติ จากเดิมจะต้องมีอายุระหว่าง 35 -70 ปี เป็น 45 – 60 ปี นอกจากนี้ คณะกรรมการยังสามารถเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ไม่ใช่คุ้มค่า ซึ่งที่ผ่านมา กสทช.มีความพยามผลักดันเรื่องดังกล่าว แต่ไม่สำเร็จกรรมาธิการฯ จึงได้สานต่อ โดยจะต้องจ่ายเยียวยาตอบแทนแก่ผู้ถูกเรียกคืนคลื่น
ขณะที่สมาชิก สปท. เห็นว่าร่างกฎหมายนี้เป็นส่วนหนึ่งริเริ่มจากคณะรัฐมนตรี เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและวางรากฐานของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อสังคม และถ้อยคำในร่างกฎหมายฉบับนี้บางมาตรายังเป็นปัญหา เช่น ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและพิทักษ์สิทธิมนุษยชนที่ กรธ. ยังไม่ได้มีการยุบรวมองค์กร พร้อมตั้งข้อสังเกตต่อการเยียวยาผู้ประกอบการที่ถูก กสทช. เรียกคืนคลื่นความถี่ จากการใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า และไม่เห็นด้วยที่จะให้หน่วยงานราชการไปประเมินตรวจสอบองค์กรอิสระ พร้อมเห็นว่าการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้เป็นเพียงการปรับปรุงกฎหมายไม่ใช่การปฏิรูป
อย่างไรก็ตาม สปท. มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วยคะแนน 128 เสียง และไม่เห็นชอบ 11 เสียง โดยกระบวนการจากนี้ สปท. จะส่งร่างพระราชบัญญัติต่อให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปโดยไม่ต้องเข้าสู่ที่ประชุม สปท. อีก
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี
CR:แฟ้มภาพ