หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 1/2559 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงแผนการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ7แห่งที่ขาดทุนตลอด1ปี ถือว่ามีความคืบหน้าตามลำดับ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ที่ประชุม คนร. มอบให้คณะอนุกรรมการส่งเสริมการขับเคลื่อนรัฐวิสาหกิจ โดยมีพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานลงไปติดตามการพิจารณา และทำงานร่วมกับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ซึ่งภายในเดือนมีนาคม ที่ประชุมคาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยทุกหน่วยงานต้องมีแผนการทำงานปี 2559 ให้สอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาล ในส่วนของบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) และ บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด ที่ประชุมสั่งการให้ทั้ง 2 หน่วยงาน กำหนดแนวทางที่ชัดเจนขึ้นเพื่อสร้างความเข้มแข็งในระยะยาว
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ประชุมต้องการให้มีความชัดเจนในเรื่องเม็ดเงินในการลงทุน และต้องการให้เอกชนมาร่วมทุนมากขึ้นในโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต และรถไฟฟ้าที่วิ่งไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่
ส่วนที่ดินของการรถไฟที่มักกะสัน ที่ประชุมระบุว่าต้องมีความชัดเจนภายใน2ปี ส่วนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ประชุมระบุว่าต้องเร่งดำเนินการจัดหารถเมล์เอ็นจีโอ ให้ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมทั้งควรให้เอกชนเข้ามาร่วมทำงานด้วย
ขณะที่บริษัทการบินไทย ที่ประชุมให้กลับไปจัดทำแผนงานให้ชัดเจนขึ้นภายในเดือนมีนาคมเช่นกัน พร้อมทั้งสั่งให้ชะลอการจัดซื้อเครื่องบินที่ยังไม่จำเป็น ส่วนธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงค์ )และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ต้องกลับไปศึกษาแนวทางลดหนี้ที่ไม่เกิดรายได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจใหม่ เนื่องจากเห็นว่ามีเนื้อหาที่จะเป็นการยกระดับรัฐวิสาหกิจให้มีประสิทธิภาพและมีหลักบรรษัทภิบาลที่ดีตามมาตรฐานสากล หลังจากนี้ กระทรวงการคลัง จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) และเสนอตามขั้นตอนต่อไป คาดใช้เวลาหลังจากนี้ไม่เกิน2เดือนน่าจะสามารถบังคับใช้กฎหมายนี้ได้
ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด