เที่ยง:วันกองทัพไทย/ประชุมแก้ปัญหาราคายาง/ศาลฎีกาเพิ่มโทษผตห.ข่มขืนนักเรียน*

ในวันนี้ เป็นวันกองทัพไทย ซึ่งมีพิธีที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ดอนเมือง มีพล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เป็นประธานในการจัดงาน ร่วมด้วย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะนายทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี พล.อ.สมหมาย กล่าวว่า กองทัพไทยมีหน้าที่ปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ช่วยเหลือประชาชนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของชาติ การที่ทหารทุกคนจะทำหน้าที่อันสำคัญนี้ให้สมบูรณ์ได้ ต้องยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิณาณตนอย่างมั่นคง ถือเกียรติศักดิ์ มีระเบียบวินัย กล้าหาญ เสียสละ มีความสามัคคี เทิดทูลและจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ยิ่งชีวิต จึงขอชื่นชมทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ จนเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน

จากนั้น พล.อ.สมหมาย กล่าวถึงการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ว่า มีการติดตามข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่ประมาท แต่อยากจะบอกว่า ประเทศไทยไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร และไม่ชอบสร้างความเดือดร้อน

ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางและชาวนา ที่เป็นปัญหาของประเทศและรัฐบาล ทหารเป็นกลไกของรัฐบาลที่ต้องช่วยดูแล โดยเฉพาะกองทัพบก ที่รับงานหนักในการรับซื้อยางพาราตามนโยบายของรัฐบาล 45/ก.ก.จำนวน 1-2 แสนตัน พร้อมจัดกำลังพลเพื่อดูแลให้ประชาชนรับผลประโยชน์ตามที่นายกรัฐมนตรีให้ไปอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมรับมือภัยแล้งตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2559 ทั้งการแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นเป็น 30-40 ล้านลิตร ไปจนถึงการขุดบ่อบาดาล

ด้านกรมทรัพยากรน้ำบาดาลประกาศจ้างเหมาเอกชนเจาะบ่อน้ำบาดาล จำนวน 735 แห่ง ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้งในเขตชลประทานพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 12 จังหวัด พร้อมเตือนผู้ประกอบการรับจ้างเจาะบ่อน้ำบาดาล อย่าหลงเชื่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลแอบอ้างเพื่อเรียกรับเงินค่าดำเนินการหรือเงินประกันใดๆ หากมีข้อสงสัยให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาลโดยตรง

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล บ่ายวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.)

พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานแก้ปัญหาราคายางร่วมกับ 8 กระทรวงใช้ยาง ประชุมความคืบหน้าการใช้ยาง ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล

ส่วนช่วงค่ำ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำ พร้อมกล่าวสุนทรพจน์ เรื่อง “ความสำคัญในการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของไทย” ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทย (Mega Dive)

พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานแก้ปัญหาราคายางร่วมกับ 8 กระทรวงใช้ยาง ประชุมความคืบหน้าการใช้ยาง ที่ห้องประชุมศรีวิศารวาจา ชั้น 3 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล

ศาลอาญานัดอ่านพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายลอน โสรกนิษฐ์ อดีต (อาจารย์ประจำชั้น ป.2) และ นายพิมล ซุ่นศรี หรือ ซุ้นศรี (อดีตครูสอนพละ โรงเรียนย่านสายไหม) เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร, กระทำอนาจารและพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราฯ หน่วงเหนี่ยว กักขัง เพื่อการอนาจาร จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-10 สิงหาคม 2549 ทั้ง 2 คนกระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงหลายคน คดีนี้ ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสอง คนละ 50 ปี ส่วนศาลอุทธรณ์ แก้โทษจำคุกจำเลย เหลือคนละ 12 ปี อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาพิพากษาเพิ่มโทษนายลอน ฐานข่มขืนอีก 7 ปี 3 เดือน รวมโทษเดิมอีก 12 ปี เป็น 19 ปี 3 เดือน ส่วนนายพิมล คงโทษ 12 ปี กรณีร่วมกันชำเราเด็กอายุ 7 ปีเศษ

เช้านี้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.ดุสิต ควบคุมตัวนายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษฎา หรือ เดอะบิ๊ก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 90/2559 ลงวันที่ 15 มกราคม 2559 ในข้อหาร่วมกันปลอมตั๋วเงิน และใช้ตั๋วเงินปลอม , ร่วมกันฉ้อโกง , ร่วมกันออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริง และบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คฯ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนำมาสอบสวนที่ บช.น.  โดยนายสัมฤทธิ์ เป็นประธานสโมสรทีมฟุตบอลเพื่อนตำรวจ และบริษัท สัญญาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงิน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลากรทางการศึกษา (สก.สค.) และโครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครู และบุคลากรทางการศึกษา (ชพค.) จำนวน 2,500 ล้านบาท

*-*