ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหายางพาราราคาตกต่ำ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรกิโลกรัม (กก.) ละ 45 บาท ปริมาณ 100,000 ตัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบรายละเอียดการใช้งบประมาณของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จำนวน 4,500 ล้านบาท ตามที่ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบข้อหารือของกระทรวงเกษตรฯ ว่า สามารถที่จะใช้เงินกองทุน กยท. สำหรับเข้าซื้อยางพาราตามโครงการของรัฐบาลได้ตามนโยบายที่จะเข้าซื้อยาง 1 แสนตัน ในช่วงเดือนมกราคม- มีนาคม 2559 โดยกำหนดราคารับซื้อยางแผ่นดิบชั้นสามไว้ที่ 45 บาท/กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมเรื่องแผนการใช้ยางพาราในประเทศของ 8 กระทรวงเมื่อวันศุกร์ที่ 15 มกราคม พล.อ.ฉัตรชัย ประธานในที่ประชุม แสดงความกังวลว่า โครงการทั้งหมดใช้งบกลางมากเกินไป เช่น การก่อสร้างถนนผสมยางพาราของหลายกระทรวง มีการใช้งบกลางรวมมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท จึงขอให้ทุกหน่วยงานกลับไปทบทวนและพยายามใช้งบประมาณปี 2559 ทั้งกังวลว่า จะเกิดความไม่โปร่งใสในการใช้งบประมาณ คาดว่า หลังวันที่ 19 มกราคม จะได้รายละเอียดเพิ่มขึ้น เพื่อเข้าซื้อยางตามกำหนดวันที่ 25 มกราคมนี้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริบัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสนอโครงการใช้ยางพารา 37 ตันเพื่อปรับผิวถนนภายในสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ งบประมาณกว่า 20 ล้าน 880,000 บาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 180 วัน
วันนี้ เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปจะเดินทางมาประเมินผลการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ไม่มีการรายงานและไม่มีการควบคุม หรือ ไอยูยู วันนี้เป็นวันแรก
การประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นอกสถานที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.สรุปภาพรวมร่างรัฐธรรมนูญว่าเน้นการวางมาตรการปราบปรามการทุจริตอย่างเข้มข้น มีบทลงโทษรุนแรง พร้อมกำหนดบทบัญญัติใหม่หลายอย่าง โดยเฉพาะสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และระบบเลือกตั้งแบบใหม่ที่ทุกคะแนนมีความหมาย เสียงข้างน้อยได้รับการเคารพ สำหรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มี 13 หมวด 261 มาตรา มีเนื้อหาที่น่าสนใจคือ พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 35 คน ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ และไม่สามารถดำรงตำแหน่งรวมกันเกิน 8 ปี ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง เมื่อความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง อายุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงหรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรีลาออก หรือศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
นายมีชัย เปิดเผยว่า ปัญหาทุจริตเป็นปัญหาเรื้อรังของประเทศ จึงสร้างกลไกการแก้ไขปัญหาทุจริตอย่างเข้มข้น สกัดคนโกงให้พ้นการเมือง และสกัดการทุจริตต่อหน้าที่และเลือกตั้งให้พ้นจากการเมือง คนที่ร่วมมือกันทุจริตจะพ้นจากหน้าที่ทั้งสภาฯ และ ครม. ในกรณีอนุมัติโครงการไม่โปร่งใสจะพ้นตำแหน่งทั้งคณะ ดังนั้นจึงขอเรียกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับต่อต้านการทุจริต
ติดตามเรื่องการออกคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 14 คน จาก 21 คนสามารถทำงานต่อไปได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเครือข่ายภาคี สสส. เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทบทวนการใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ปลด 7 กรรมการ สสส. โดยอธิบายว่าในบัญชีสอบข้าราชการพัวพันการทุจริตกลุ่มที่ 3 กลุ่มอื่นๆ มีการตั้งคณะกรรมการสอบ แต่ สสส.ไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบ เพราะไม่ได้มีการทุจริต แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน คือเป็นกรรมการอยู่ในองค์กรที่ขอทุนกับองค์กรที่ให้ทุน เมื่อออกจากตำแหน่ง ก็ถือว่าไม่ทับซ้อนอีกต่อไป
พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธาน คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) กล่าวว่า นายกฯต้องการให้ สสส.ทำงานต่อไปได้ อย่างมีจริยธรรม ตรงตามวัตถุประสงค์ ส่วนประเด็นที่เป็นปัญหากระทรวงสาธารณสุขกำลัง ดำเนินการแก้ไข
ในวันนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย จะยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร เรื่องขอให้ตรวจสอบติดตามเพื่อประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้จากผู้ที่รับเงินจาก คณะกรรมการของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.และดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่มีพฤติการณ์หลบเลี่ยงภาษี โดยพบว่ามีบุคคลบางกลุ่มที่รับเงินอุดหนุนจาก สสส. มีพฤติการณ์จะหนีภาษี ด้วยการบิดเบือนรายได้จากการรับจ้างทำของ เป็นรายได้ในฐานะตัวแทนที่ได้รับจากตัวการ พยายามอ้างว่ามีการเบิกจ่ายตามงวดงาน เป็นเงินในลักษณะตัวแทนที่ได้รับมาจากตัวการ จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษี แต่หากพิจารณาจากงบการเงินของ สสส. จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายอุดหนุนโครงการไม่ใช่เงินที่จ่ายในลักษณะตัวแทน
ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะหารือกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อีกครั้ง เกี่ยวกับการทูลเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20