บทบาทความสำคัญของตลาดทุนและแผนพัฒนาตลาดทุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เยี่ยมชมอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งใหม่ และฟังการบรรยายสรุปบทบาทความสำคัญของตลาดทุนและแผนพัฒนาตลาดทุน พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตัวเองไม่ได้เรียนด้านเศรษฐศาสตร์ มาโดยตรง เรียนแต่เศรษฐศาสตร์แบบการทหาร คือ การนำเงินที่มีน้อยอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่เหมือนกับภาคธุรกิจ ที่นำเงินมาต่อเงิน โดยขณะนี้ความหวังในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ อยู่ที่นายสมคิด จาตุรศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยก่อนที่จะเข้ามาที่นี่ นายสมคิดได้กล่าวกับตัวเองว่า ดีใจที่ได้กลับมาที่นี่ เหมือนได้กลับมายังบ้านเก่า
ส่วนการแก้ปัญหาราคายางพารา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะให้ตัวเองออกคำสั่งใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาไม่ได้ ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกลไกการตลาด เราจะต้องแก้ปัญหาในระยะยาวด้วย ตัวเองไม่ได้เข้ามาทำงานแบบนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ที่จะได้ทำตามนโยบายระยะสั้น แต่เราจะต้องมีการวางแผนระยะยาว ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการนำผลงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยางพารา มาจัดแสดงที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนการเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะไปเปลี่ยนไม่ได้ ตัวเองเข้าใจว่าคนที่ทำงานเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจตอนนี้เหนื่อยทุกคน เพราะว่าเศรษฐกิจไม่ดี
ส่วนการปฏิรูปกองทุนสนับสนุนและสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปแตะโครงการต่างๆ ตัวเองเข้าใจดีอยู่แล้วว่าการทำงานภาคประชาสังคมมีความจำเป็นต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก โดยในวันจันทร์ที่ 18 มกราคมนี้ ตัวเองก็จะออกคำสั่งให้กลับมาทำงานเหมือนเดิม
ในช่วงหนึ่งของการบรรยาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ตลาดทุนก็เป็นส่วนสำคัญในการนำรายได้เข้าสู่ประเทศ มีการวางรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ เช่น โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และจะนำไปสู่ความร่วมมือในเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งตัวเองจะพยายามดันโครงการจัดซื้อรถเมล์ ที่ติดขัดมานาน ให้สำเร็จให้ได้ โดยกล่าวติดตลกถึงกระแสในโซเชี่ยลมีเดียที่มีการนำเสนอข่าวเจ๊เกียว ไม่ลดราคาค่าโดยสารว่า ถ้าเจ๊เกียวมีการลดราคาค่าโดยสาร หน้าตาเจ๊เกียวจะดูดีกว่านี้ และยังได้กล่าวอย่างอารมณ์ดีอีกว่า คนที่มาฟังตัวเองพูดในวันนี้ จะคิดว่ามาฟัง โน้ต อุดม แต้พาณิช หรือเปล่า และหลังจากออกจากบ้านก็ต้องคิดไว้ก่อนแล้วว่าจะก้าวเท้าซ้ายหรือเท้าขวา เพราะการมาพูดในวันนี้จะทำให้ตลาดหุ้นติดลบหรือไม่
สำหรับแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะยาว จะต้องมีการลงทุนด้านการศึกษา จะต้องมีการพัฒนาด้านความคิด และจะต้องผลิตคนที่ตรงกับความต้องการของประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีก็ได้กล่าวอีกว่า ตัวเองเขื่อว่าทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ต่างอยากให้ประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าและพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น แต่ว่าคนไทยชอบทำโอกาสให้เป็นวิกฤต และชอบทำให้วิกฤตให้เป็นวิกฤตมากขึ้นอีก และก่อนที่ตัวเองจะเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ไม่คิดว่าประเทศไทยจะมีปัญหามากขนาดนี้ โดยตัวเองไม่ได้คาดหวังจะให้ประชาชนมาชื่นชมและรักตัวเอง แต่คาดหวังจะให้ประชาชนในประเทศอยู่ดี กินดี มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งแผนของรัฐบาลจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปี 2559-2560
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน (Investory) ที่บริเวณชั้นใต้ดิน อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้ลงนามสมุดเยี่ยมและถ่ายภาพ ที่รูปปั้น Bull-Bear หน้า Word of SET ด้วย