การประชุมเพื่อวางแนวทางการนำยางพาราไปใช้ใน 8กระทรวง ที่มีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยระหว่างการประชุมว่า วันนี้ที่ประชุมจะยังไม่มีการแถลงสรุปว่าแต่ละกระทรวงจะนำยางพาราไปใช้ในปริมาณเท่าใด เพราะต้องให้แต่ละหน่วยงานไปหารือกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปถึงตัวเลขของแต่ละกระทรวงที่จะนำยางพาราคาไปใช้ให้ชัดเจนก่อน จากนั้นจึงจะนำเสนอให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงพิจารณาก่อน นำกลับมาหารือในที่ประชุมร่วม 8กระทรวงอีกครั้ง คาดว่า อาจจะวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ สำนักงบประมาณ ต้องการให้ทุกหน่วยงานใช้งบปกติ ในการดำเนินการซื้อยางพารานี้ โดยไม่นำงบกลางมาใช้ เนื่องจากงบกลางมีจำนวนจำกัด
นายสุรพล กล่าวถึง เรื่องที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ลงไปรับซื้อยางพาราจากเกษตรกร จำนวน 1แสนตัน โครงการดังกล่าวจะเริ่มรับซื้อตั้งแต่วันที่ 25ม.ค.นี้เป็นต้นไป โดยจะรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรรายละไม่เกิน 150กิโลกรัมต่อครัวเรือน โดย กยท. จะใช้งบประมาณสำรองเพื่อลงไปรับซื้อยางพาราในวงเงิน 4,000ล้านบาท โดยจะมีจุดรับซื้อยาง ในพื้นที่ภาคใต้ 2,000จุด และภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคละ1,000จุด ซึ่งขั้นตอนการประสานจะให้แต่ละภาคจัดตัวแทนภาคละ 1คน มาดำเนินการเป็นผู้ประสานงานระหว่างเกษตรกรกับกระทรวงฯ.เพื่อแจ้งข่าวสารในการรับซื้อยางพารา
ส่วนโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อสร้างอาชีพเสริม และปลูกพื้นทดแทนให้แก่เกษตรกรในวงเงิน 15,000ล้านบาทนั้น โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเกษตรกรเข้าถึงโครงการนี้แล้วกว่า 1แสนราย
ด้านนายสาย อินคำ คณะกรรมการยางแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนสมาคมเครือข่ายเกษตรสถาบันเกษตรกรยางพาราไทย เปิดเผยว่า จากมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำของรัฐบาล เกษตรในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ มีความพึ่งพอใจและพร้อมที่จะสนับสนุน ส่วนราคาที่รัฐบาลรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 45บาทนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องที่ราคา 60บาทต่อกิโลกรัม ส่วนตัวเข้าใจว่าขณะนี้สถานการณ์และสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งรัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่ แต่ราคาที่รัฐบาลกำหนดมานี้ เกษตรกรสวนยางพารา มากกว่า 1ล้านครอบครัว จึงต้องอยู่ในภาวะจำยอมที่ต้องยอมรับ เพราะถึงแม้ว่าราคายางพาราจะลดลง แต่ราคาสินค้าอุปโภค ที่จำเป็นเช่น ยางรถยนต์ ปลากระป๋อง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเป็นของใช้จำเป็นของเกษตรกรชาวสวนยางก็ยังไม่ลด ดังนั้นถ้าในอนาคตภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ก็อย่างให้ทุกรัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลให้มีการใช้ยางพาราในประเทศให้มีมากร้อยละ 40 ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการช่วยดึงราคายางพาราให้ขึ้นเอง
ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด