*อินโดฯจับชาย3คนสอบปากคำ/รถบัสญี่ปุ่นตกเขาตาย14เจ็บ27/สรส.ยื่นทบทวนร่างพ.ร.บ.พัฒนากำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ*

+++พล.ต.ต.อันโทน ชาร์ลิยาน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซีย แถลงคำสั่งของผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่ทุกนายทั่วประเทศเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดเพื่อรับมือภัยคุกคามจากการก่อการร้าย โดยพื้นที่เสี่ยงที่ต้องเน้นเป็นพิเศษคือสถานที่ราชการและสถานเอกอัครราชทูตของทุกประเทศ ซึ่งกองทัพจะเสริมกำลังทหารร่วมด้วย

+++ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจู่โจมเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในเขตดีป็อก ชานกรุงจาการ์ตา และจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน เป็นชายทั้งหมด เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายในเมืองหลวงหรือไม่  นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมสำหรับปฏิบัติการตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยอีกหลายแห่งด้วย

+++นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึง แผนดูแลคนไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงจาการ์ตาและเมืองต่างๆในประเทศอินโดนีเซียว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ได้ประสานกับเครือข่ายคนไทยในอินโดนีเซีย โดยได้เปิดหมายเลขโทรศัพท์ของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ +62811186253 ในกรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อหรือแจ้งความช่วยเหลือเข้ามาได้ยังสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ยังไม่ออกประกาศห้ามคนไทยเดินทางไปยังกรุงจาการ์ตา ซึ่งนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปอินโดนีเซียส่วนใหญ่จะไปยังเกาะบาหลี จึงเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่กระทบต่อเส้นทางการท่องเที่ยวของคนไทยที่จะเดินทางไปอินโดนีเซีย เพียงแต่ขอให้นักเที่ยวไทยพกหมายเลขโทรศัพท์ของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯไว้ติดตัว หรือแจ้งชื่อและที่พักไว้กับสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ เพราะหากเกิดเหตุการณ์ สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ จะสามารถติดต่อกันได้ทันที

+++เมื่อถามว่าเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวเป็นการคุกคามต่อความมั่นคงของประชาคมอาเซียนหรือไม่ นายเสข กล่าวว่า ตอนนี้ด้านการข่าวยังไม่โยงกันไปขนาดนั้น  และเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่บั่นทอนต่อความร่วมมือของอาเซียน แม้มีการมองว่ากรุงจาการ์ตาเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่อาเซียน แต่เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตัวและความตระหนักถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ อาเซียน ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านข่าวกรอง โดยมีสภาความมั่นแห่งชาติ(สมช.) เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพิ่มอารักขาความปลอดภัยให้กับสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทยแล้ว

+++ไปที่อุบัติเหตุรุนแรงที่ญีปุ่น นายโยชิฮิเดะ ซึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุุ่น แถลงว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัสโดยสารเสียหลักชนราวเหล็กกั้นขอบถนน ก่อนพุ่งตกข้างทางซึ่งเป็นหุบเขา บนถนนสายหนึ่งของเมืองคารุอิซาวา ในจังหวัดนางาโนะ ทางตอนกลางของญี่ปุ่น เมื่อช่วงรุ่งสางของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ศพ  บาดเจ็บอีก 27 คน สาเหตุอยู่ในขั้นตอนการสืบสวน ข้อมูลเบื้องต้น ระบุว่า รถบัสโดยสารคันดังกล่าวเดินทางจากกรุงโตเกียว เพื่อมุ่งหน้าไปยังสกีรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดนางาโนะ  โดยมีพนักงานขับรถ 2 คน ทำหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันขับรถตลอดการเดินทาง มีรายงานว่าขณะเกิดเหตุบนถนนไม่มีหิมะปกคลุม ผู้โดยสารบนรถเป็นนักท่องเที่ยวที่ซื้อทัวร์มาจากบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ในกรุงโตเกียว ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีรถโดยสารเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง บางรายเกิดจากคนขับหลับใน

+++การประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) นอกสถานที่ที่จ.เพชรบุรี  เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา เป็นวันที่ 5 โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม กรธ.พิจารณาจบเนื้อหาหมวดที่ 8 ว่าด้วยคณะรัฐมนตรี(ครม.)แล้ว หรือผ่านไปประมาณ 187 มาตรา เบื้องต้นในส่วนของครม.ยังคงยืนหลักการเดิมคือผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสามารถเป็นส.ส.ได้โดยไม่ต้องลาออก ส่วนคุณสมบัติอื่นๆเป็นเหมือนกับส.ส. ส่วนการพิจารณาในวันนี้ จะพิจารณาต่อในเรื่องขององค์กรอิสระและศาลต่อไป เริ่มที่มาตรา 188  กรธ.อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟังด้วย

+++การตรวจสอบองค์กรอิสระในส่วนเรื่องทุจริต ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตรวจสอบองค์กรอิสระ ถ้าองค์กรอิสระทำผิดจริยธรรม ก็ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ถ้าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)กระทำผิดเอง ขอให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด

+++นายมีชัย กล่าวถึงข้อห้ามคุณสมบัติของส.ว.หากปรากฎว่าภายหลังมีเครือญาติลงสมัคร ส.ส. ว่า กรธ.ไม่ได้ห้ามเครือญาติที่เป็นส.ว. ซึ่งประกอบด้วยคู่สมรส บุตร บุพการีเป็นส.ว.อยู่ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.หรือดำรงตำแหน่ง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการการเมือง กรรมการองค์กรอิสระ สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น แต่ถ้าปรากฎว่าภายหลังบุคคลนั้นได้เป็นส.ส.และตำแหน่งดังกล่าวอื่นๆ ส.ว.ที่เป็นเครือญาติของผู้ได้ตำแหน่งก็จะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติพ้นจากการเป็น ส.ว.ทันที  เมื่อถามว่าถ้ามีกรณีที่สามีภรรยาหย่าจากกันเพื่อมาลงสมัคร ถือว่าต้องพ้นสภาพหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เคยมีคำวินิจฉัยของศาลแล้ว เมื่อปรากฎว่าสามีภรรยาหย่าขาดจากกัน แต่ยังอยู่ด้วยกันแบบคู่สมรส ก็ถือว่าต้องพ้นสภาพด้วย แต่ถ้าใครสงสัยอะไร ก็ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติได้ ซึ่งการกำหนดคุณสมบัติของ ส.ว.เข้มขึ้นเพื่อไม่ให้ตกอยู่ภายใต้อาณัติทางการเมืองของ ส.ส.

+++ประเด็นบ่ายที่ต้องตามต่อ การพิจารณาคดีจำนำข้าว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  นัดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์คือฝ่ายอัยการ มีจำนวน 4 ปาก ด้านจำเลย น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางมาศาล เพื่อเข้าร่วมกระบวนการรับฟังการไต่สวน ยืนยันพร้อมต่อสู้คดีเตรียมพยานฝ่ายจำเลย 43 ปาก

+++พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ติดตามงานพัฒนาตลาดทุนไทย พร้อมมอบนโยบาย 

+++นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) พร้อมด้วย ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ หลายองค์กร เดินทางมาที่ศูนย์บริการประชาชน เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้ทบทวนและระงับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. นายสาวิทย์ กล่าวว่า สรส.ขอให้นายกรัฐมนตรีทบทวนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะเห็นว่ามีข้อความที่จะก่อให้เกิดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เปลี่ยนแปลงสถานะของรัฐวิสาหกิจจนพ้นสภาพจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ และขอให้ สรส. ส่งผู้แทนเข้าร่วมตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและสร้างความสมานฉันท์ โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก  สรส.เห็นด้วยกับการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจที่ไม่ให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซงหาประโยชน์ ต้องการให้มีการบริหารงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ในวันที่ 22 ม.ค.นี้ สรส.จะจัดประชุมที่ศูนย์ราชการ ในหัวข้อ วิพากษ์ร่างพ.ร.บ. ปฎิรูปหรือแปรรูปรัฐวิสาหกิจ