*ศธ.จัดกิจกรรมเชิดชูครู 16 ม.ค./นายกฯประชุมต้านทุจริต/รมว.เกษตรฯหารือ8กระทรวงเพิ่มการใช้ยาง*

+++ วันที่ 16 มกราคม ของทุกปี ถือว่าเป็น วันครูแห่งชาติ  เป็นวันที่ลูกศิษย์จะรำลึกถึงพระคุณของครูและเป็นวันที่ทุกคนจะหวนรำลึกถึงบทบาทหน้าที่ของความเป็นครู

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงการจัดงานวันครูว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันครู พ.ศ.2559 ว่า "อนาคตก้าวไกล ด้วยครูดี มีคุณภาพ"  ส่วนกลางในวันที่ 16 มกราคมนี้ ที่หอประชุมคุรุสภา มีการจัดงานเชิดชูครู พร้อมพิธีมอบรางวัลให้กับครูและผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ  พล.อ.ดาวพงษ์ ระบุว่า พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก ดังนั้น การจัดงานวันครูครั้งต่อๆ ไปอยากให้คุรุสภาพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะให้พ่อแม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวันครูด้วย เพื่อสร้างความตระหนักให้แก่เด็กว่าวันครู ไม่ใช่มีเพียงแค่ครูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพ่อแม่ด้วย

+++นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ติดตามความคืบหน้า หลังจากล่าสุดมีการออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ตาม มาตรา 44 ของนายกรัฐมนตรีที่สั่งพักงาน ข้าราชการรัฐและ ท้องถิ่น 59 ราย

+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 เป็นประธาน ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ... ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้เสนอ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่า ร่างกฎหมาย ฉบับนี้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นผู้ริเริ่ม และจัดทำร่างเสนอต่อ ครม. ซึ่งถือเป็น กฎหมายที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล จึงได้นำเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อเห็นชอบในหลักการ โดยถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วน และเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ มีผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงทางสังคม และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ที่ประชุมลงมติวาระแรกรับหลักการด้วยคะแนน 174 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณา 15 คน

+++การพิจารณาคดีจะใช้ระบบไต่สวน มีแค่ 2 ศาล คือชั้นต้น และอุทธรณ์ และหากจำเลย หรือผู้ถูกกล่าวหาหลบหนี คดีก็หยุดไว้ ไม่ขาดอายุความ จนกว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดี คาดว่าจะสามารถเปิดศาลนี้ได้ 1 ต.ค.นี้

+++นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต.ล่าสุด ที่ประชุมรับทราบถึงกรณีการกระทำความผิดของผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในด้านหลักทรัพย์ เช่น การใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น (อินไซเดอร์เทรดดิ้ง) ปั่นหุ้น จึงให้ทบทวนบทลงโทษผู้บริหารที่อาจล้าสมัย ซึ่งคณะทำงานอยู่ระหว่างศึกษาว่าจะแก้ไขประกาศอย่างไร เบื้องต้นเป็นไปได้ว่าอาจขึ้นบัญชีดำ (แบล๊กลิสต์) ใช้บทลงโทษคล้ายกับผู้บริหารของสถาบันการเงิน คือเมื่อได้รับการกล่าวโทษจะไม่สามารถเป็นผู้บริหารบริษัทได้อีก คาดว่าการแก้ไขประกาศดังกล่าวจะมีความชัดเจนในปีนี้ ประกาศ ก.ล.ต.ฉบับปัจจุบัน หากผู้บริหารถูกกล่าวโทษและจ่ายเปรียบเทียบปรับยังสามารถเป็นผู้บริหารได้ ขณะที่ผู้บริหารสถาบันการเงินหากได้รับการกล่าวโทษ แม้ยอมจ่ายค่าปรับก็ต้องพ้นสภาพทันที และไม่สามารถเป็นผู้บริหารสถาบันการเงินใดได้อีก

+++เรื่องยางพารา บ่ายนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการเพิ่มปริมาณการใช้ประโยชน์จากยางพาราในประเทศ หลังจากรัฐบาลมีมติรับซื้อยางในราคา 45 บาท/กิโลกรัม เริ่มดำเนินการรับซื้อยางพารา ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมนี้เป็นต้นไป การหารือวันนี้ มีรายงานว่า พล.อ.ฉัตรชัย จะร่วมประชุมกับผู้นำสวนยางจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น  จ.บึงกาฬ หนองคาย นครราชสีมา ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม ขอนแก่น หนองบัวลำภู และเลย ภายหลังจากมีข่าวออกมาว่ามาตรการซื้อยางพาราเพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางพารารายย่อยที่จะมีเริ่มรับซื้อในวันที่ 25 มกราคมนี้ ถือว่าเป็นมาตรการที่ช่วยชาวสวนยางเฉพาะกลุ่มเกษตรกรภาคใต้เท่านั้น เนื่องจากชาวสวนยางภาคอีสาน ปิดการกรีดไปเรียบร้อยแล้ว จึงเป็นการประชุมชี้แจงแนวทางช่วยในระยะยาวด้วย นอกจากนี้ หารือแนวทางเพิ่มปริมาณการใช้ประโยชน์ยางพาราในประเทศ รวม 8 กระทรวง ด้วย

+++ความคืบหน้าของการสรรหาผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย ดำเนินการมาแล้ว 2 รอบ แต่ยังไม่ได้ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติวันที่ 18 มกราคมนี้ จะมีการตรวจคุณสมบัติเพิ่มเติม แต่หากไม่ผ่านการพิจารณาจะประกาศรับสมัครอีกครั้ง ในวันที่ 19 มกราคมนี้ โดยจะเร่งสรรหาตัวผู้ว่าการ กยท.ให้ได้เร็วที่สุด และวันที่  21 มกราคมนี้ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานบอร์ด กยท. ได้เรียกประชุมบอร์ด กยท. เป็นครั้งแรก โดยวาระการประชุมเบื้องต้นจะเป็นเพียงการแบ่งหน้าที่ของกรรมการแต่ละคนว่าจะมีการทำหน้าที่และรับผิดชอบเรื่องใดบ้าง

+++ด้านกระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมหาทางช่วยเหลือร่วมกับนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารกรุงไทย ว่าจะให้ ธ.ก.ส.และออมสินเข้ามาช่วยปล่อยสินเชื่อ 0% สำหรับการรับซื้อยางจำนวน 1 แสนตัน โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้เท่ากับต้นทุนเงินของธนาคาร คาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 4-5 พันล้านบาท ซึ่งจะเริ่มได้ทันทีหลังจากเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.

+++นอกจากนี้ จะให้ 4 ธนาคารรัฐ คือกรุงไทย ออมสิน เอสเอ็มอีแบงก์ และ ธ.ก.ส.เข้ามาปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการที่รับซื้อยางจำนวน 1 แสนตัน แล้วนำไปผลิตสินค้าในอัตราดอกเบี้ยต่ำ สามารถดำเนินการได้ทันที ไม่ต้องเข้า ครม.เพราะรัฐไม่ชดเชย นอกจากนี้ ยังให้สานต่อโครงการเดิมคือ การให้ 5 ธนาคารพาณิชย์ คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกร ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต ปล่อยสินเชื่อให้กับเอกชนที่ทำซื้อยางมาสต๊อกไว้ โดยพยายามทำให้มาตรการทั้งหมดดำเนินการได้ภายในเดือนมกราคมนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวสวนยางได้ทันเวลา

+++ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานโจทก์วันแรกคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่มิชอบโครงการจำนำข้าว เวลา 09.30 น. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางมาร่วมฟังการไต่สวนด้วย ขณะที่ ทนายความได้จัดส่งคำถามต่อศาล ที่จะซักถามพยานทั้งหมดของอัยการที่จะนำมาไต่สวนในวันนี้

+++รายงานจากสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมในการไต่สวนพยานชุดแรก มีทั้งสิ้น 4 ปาก โดยอัยการได้จัดส่งคำเบิกความพยานเป็นเอกสารต่อศาลตามกำหนดที่ศาลได้มีคำสั่งไว้แล้ว สำหรับพยานอัยการโจทก์ 4 ปาก ตามบัญชีนัด ที่จะนำเข้าไต่สวนวันนี้ ประกอบด้วย ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร อดีตประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งพยานปากนี้ อัยการต้องการนำมาเปิดประเด็นโครงการจำนำข้าวตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้ศาลฎีกาฯ เห็นภาพรวมโครงการ , พยานที่เป็นสื่อมวลชน , นายประจักษ์ บุญยัง รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และนายจิรชัย มูลทองโร่ย อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

+++เรื่องสมเด็จพระสังฆราช หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ได้รับมติที่ประชุมกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ที่เสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งพระสังฆราชองค์ใหม่แล้ว ที่มีมติเห็นชอบนามของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช  ขั้นตอนต่อจากนี้จะต้องรวบรวมข้อมูลครบถ้วนรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพื่อส่งให้นายกรัฐมนตรีมีข้อมูลทุกประเด็นเพียงพอในการพิจารณาในส่วนอำนาจหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการต่อไป โดยตั้งแต่สัปดาห์หน้าจะหารือเพิ่มเติมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) รวมถึงอาจต้องหารือกับคณะสงฆ์และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอาจมีข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม ยังบอกไม่ได้ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้นานแค่ไหน หรือจะเสร็จภายในเดือนมกราคมนี้หรือไม่  ขอยืนยันว่าทำทุกอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรคลุมเครือ และอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง