*อินโดฯคุมเหตุในจาการ์ตาได้แล้ว/คลังเสนอ3มาตรการแก้ปัญหายาง/เสนอรายชื่อนายกฯไม่เกิน3ชื่อ*

14 มกราคม 2559, 19:10น.


+++เอเอฟพี รายงานอ้างพล.ต.ท.บูดี กูนาวาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียและนายโมฮัมหมัด อิกบัล โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียว่า ขณะนี้ปฏิบัติการปิดล้อมคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีกรุงจาการ์ตาสิ้นสุดแล้ว หลังเกิดเหตุนาน 5 ชั่วโมง จากเหตุเหตุกราดยิงและระเบิดหลายแห่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น  มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ เป็นคนร้าย 5 ศพ ตำรวจวิสามัญ 2 ศพ และกดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย 3 ศพประชาชนเสียชีวิต 2 ศพ เป็นชาวดัตช์ 1 ศพและชาวอินโดนีเซีย 1 ศพ บาดเจ็บ 19 คนรวมถึงชาวต่างชาติหลายคน แต่อีกด้านโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซีย ไม่ยืนยันว่าคนร้ายใช้วิธีระเบิดพลีชีพ   



+++ล่าสุด โฆษกสำนักงานตำรวจอินโดนีเซีย  รายงาน จับเป็น 2 คน



+++สำนักข่าวอามามัดห์ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)  รับว่า อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งใจโจมตีนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ความมั่นคง  



+++ลำดับเหตุการณ์ เริ่มเกิดเหตุเมื่อเวลา 10.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุที่ร้านกาแฟสตาร์บัค และพื้นที่ด้านนอกของร้าน เป็นเหตุคนร้ายกดชนวนระเบิด จากนั้นคนร้ายอีก 2 คนจับชาวต่างชาติ 2 คนเป็นตัวประกัน คือ ชาวดัตช์ 1 คนและชาวแอลจีเรีย 1 คน  และกราดยิงใส่คนตามท้องถนน ลากตัวประกันเข้าไปยังลานจอดรถและยิงตัวประกัน ชาวดัตช์เสียชีวิต ส่วนชาวแอลจีเรียบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้พบคนร้ายทั้งสองคนและเปิดฉากยิงใส่ ทำให้คนร้ายตอบโต้ด้วยการขว้างระเบิด 2 ลูกใส่ตำรวจ และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีพุ่งไปยังด่านตำรวจใกล้ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ก่อนจะกดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย บริเวณดังกล่าว ตำรวจพบระเบิดที่ยังไม่ทำงานอีก 5 ลูกและปืนพกสั้น 2 กระบอกตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ พร้อมกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ส่วนอีกสองศพที่ตำรวจวิสามัญเป็นคนร้ายที่ปะปนอยู่ในห้างสรรพสินค้า จุดที่เกิดเหตุเป็นย่านสถานที่สำคัญทั้งการค้าการลงทุน ทั้งมีห้างสรรพสินค้า สถานที่ตั้งหน่วยงานของสำนักงานสหประชาชาติ  



+++เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอินโดนีเซีย เชื่อว่า กลุ่มก่อการร้ายชาวอินโดนีเซียที่เคยไปร่วมสู้รบกับกลุ่มไอเอสในตะวันออกกลางอาจจะกลับมาก่อเหตุโจมตีในครั้งนี้ สอดคล้องกับการที่ไอเอส ออกมาเตือนว่า จะมีการจัดงานใหญ่ที่เป็นลักษณะการแสดงคอนเสิร์ต จนมาถึงการก่อเหตุสำคัญครั้งนี้  



 



+++ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร ศาลสูงอินโดนีเซีย  ตัดสินจำคุก15 ปี ผู้นำศาสนา อาบูบาการ์ อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาคนสำคัญ ที่เปิดค่ายอบรมในจ.อาเจะห์ เป็นเครือข่ายก่อการร้าย ยามิอะอิสลามิยะห์  และอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์



+++สำหรับอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงเคยก่อเหตุระเบิดโจมตีอินโดนีเซียมาหลายครั้งระหว่างปี 2543-2552 รวมถึงเหตุโจมตีที่เกาะบาหลีเมื่อปี 2545 มีคนเสียชีวิต 202 ศพ



+++สถานการณ์ในขณะนี้แม้ว่าจะมีการควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังมีการปิดถนนเส้นทางมุ่งสู่กรุงจาการ์ต้าและตรวจค้นพื้นที่ชุมชน



+++กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบคนไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทางการอินโดนีเซีย ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และได้เพิ่มมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้คนไทยที่อยู่ในกรุงจาการ์ตาพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางไปบริเวณที่เกิดเหตุ



+++ กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้คนไทยที่พำนักอยู่ในกรุงจาการ์ตาและคนไทยที่มีแผนจะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยกระทรวงการต่างประเทศจะประเมินสถานการณ์เป็นระยะและจะแจ้งให้ทราบต่อไป ในกรณีที่ประสบปัญหา หรือมีเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ที่หมายเลขโทรศัพท์ +๖๒ ๘๑๑ ๑๘๖ ๒๕๓  อนึ่ง ปัจจุบันมีคนไทยอาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซียประมาณ ๔,๐๐๐ คน และอยู่ในกรุงจาการ์ตา ประมาณ ๓๐๐ คน



+++การแก้ปัญหายางพารา นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะออก 3 มาตรการ แก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ประกอบด้วย มาตรการที่ 1.ขอให้ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยสินเชื่อไม่คิดดอกเบี้ยให้กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อนำไปซื้อยางพาราโดยตรงจากเกษตรกรผู้ปลูกตามนโยบายช่วยเหลือของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. ทั้งหมด ซึ่งจะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบสัปดาห์หน้า มาตรการที่ 2.ยังให้ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการ มาตรการที่ 3. กระทรวงการคลัง จะชดเชยดอกเบี้ยให้กับธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง ที่ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการซื้อยางพาราเก็บไว้เพิ่ม โดยเพิ่มประเภทการซื้อยางจากเดิมแค่น้ำยางข้น มาเป็นยางแผ่นและยางแท่ง ทำให้ช่วยดึงราคายางพาราในตลาดขึ้นได้ ซึ่งมาตรการนี้จะเสนอให้ ครม. เห็นชอบในสัปดาห์หน้าเช่นกัน โดยมาตรการทั้ง 3 มาตรการ มีผล 1 ปี



+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ต้องชดเชยดอกเบี้ยให้กับแบงก์รัฐและธนาคารพาณิชย์ประมาณร้อยละ 2 หรือ 80-100 ล้านบาทต่อปี ส่วนการรับซื้อยางที่ราคาตลาด 45 บาทต่อกิโลกรัม ต้องใช้เงิน 4,500 ล้านบาท



+++คดีจำนำข้าว นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความพร้อมการไต่สวนพยานโจทก์นัดแรก คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบโครงการจำนำข้าว วันพรุ่งนี้ (15 ม.ค.) เวลา 09.30 น.ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางมาแน่นอน ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานโจทก์วันแรก ยืนยัน จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตามกระบวนการทางกฎหมาย รายงานจากสำนักงานอัยการสูงสุด  ได้เตรียมความพร้อมในการไต่สวนพยานชุดแรกพรุ่งนี้แล้ว ซึ่งพยานมีทั้งสิ้น 4 ปาก ประกอบด้วย นายนิพนธ์ พัวพงศกร อดีตประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งพยานปากนี้ อัยการต้องการนำมาเปิดประเด็นโครงการจำนำข้าวตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้ศาลฎีกาฯ เห็นภาพรวมโครงการ , พยานที่เป็นสื่อมวลชน , นายประจักษ์ บุญยัง รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และนายจิรชัย มูลทองโร่ย อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี



+++การยกระดับรัฐวิสาหกิจ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.เตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. …. เพื่อให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซุปเปอร์บอร์ด วันที่ 18 มกราคมนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ ยกระดับรัฐวิสาหกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการนำหลักบรรษัทภิบาลที่ดี (Good Corporate Governance) ตามมาตรฐานสากลมาปรับใช้กับรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เป็นการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจไม่ใช่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ จึงไม่มีผลกระทบต่อสถานะความเป็นรัฐวิสาหกิจและสภาพการจ้างของพนักงานรัฐวิสาหกิจแต่เป็นการยกระดับการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจของประเทศไทยให้มีความชัดเจน โปร่งใส และสอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลที่เป็นมาตรฐานสากล ตลอดจนมีการสร้างความโปร่งใสให้กับกลไกการแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการป้องกันการแทรกแซงจากการเมืองที่ไม่เหมาะสม เพื่อลดโอกาสการนำรัฐวิสาหกิจไปใช้สนองนโยบายประชานิยมที่ไม่รับผิดชอบ รวมทั้งยังจัดตั้ง บรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ (Holding Company) โดยแต่งตั้งนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน ทำหน้าที่รับผิดชอบรัฐวิสาหกิจทั้งระบบ จัดทำแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,263.29จุด ลดลง15.32จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,612.41ล้านบาท ดัชนีส่วนใหญ่แกว่งตัวผันผวนอยู่ในทิศทางเชิงลบ ทั้งเรื่องราคาน้ำมันดิบโลก และปัญหาความไม่สงบในอินโดนีเซียที่กดดันบรรยากาศการลงทุนภายในภูมิภาค ส่งผลให้นักลงทุนแห่เทขายทำกำไรลดความเสี่ยงในหุ้นขนาดใหญ่ออกมาเป็นระยะ นักวิเคราะห์ คาดว่า ดัชนีเช้าสู่ช่วงปรับฐาน เพื่อฟื้นตัวขึ้นต่อ เนื่องจาก ตลาดเอเชีย เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ล่าสุดพบว่าแนวโน้มค่าเงินหยวนเริ่มมีเสถียรภาพบ้างแล้ว



+++ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 474.68 จุด ที่ 17,240.95 จุด ดัชนีฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 117.47 จุด ที่ 19,817.41 จุด  



+++การประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นอกสถานที่ ที่ อ.ชะอำ  จ.เพชรบุรี  ที่ประชุมได้พิจารณาต่อที่หมวด 7  รัฐสภา นายนรชิต สิงหเสนีย์ โฆษกกรธ. กล่าวว่า ที่ประชุม กรธ.กำหนดให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 3 คน ให้ส่งรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนวันปิดรับสมัคร ส.ส. เพื่อให้ กกต.ประกาศให้ประชาชนทราบ  ซึ่งจะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าตัว และบุคคลดังกล่าวจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม  ต้องไม่เคยทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองอื่นเสนอรายชื่อ  หากไม่ทำตามให้ถือว่าเป็นโมฆะ ก่อนหน้านี้ กรธ.กำหนดให้ส่งรายชื่อนายกรัฐมนตรีได้ 5 รายชื่อ แต่ผลการสำรวจความเห็นของประชาชนเห็นว่าไม่ควรเกิน 3 รายชื่อ จึงได้ปรับเปลี่ยน



 



 

ข่าวทั้งหมด

X