*รองนายกฯยืนยันไม่แทรกแซงราคายาง รับซื้อแสนตันนำแปรรูปทั้งหมด เชื่อรมว.กษ.ไม่น้อยใจ*

การแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ราคารับซื้อยางพาราจะมีการขยับไปถึง 60 บาทต่อกิโลกรัมหรือไม่นั้น ต้องดูกันอีกครั้งแต่เชื่อว่าไม่เกิน 60 บาทต่อกิโลกรัม  ส่วนแนวทางประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคายาพารา เบื้องต้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ชี้แจงว่ารับซื้อยางพารา เพื่อนำไปแปรรูปภายในประเทศ และปัจจุบันในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านมีการปลูกยาพาราจำนวนมากจึงให้มีผลผลิตมากส่งผลต่อราคายาพาราลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมามีปัญหาเพราะอัตราการผลิตในประเทศมีสูงถึง 4.7 ล้านตัน แต่การนำมาใช้กว่า 1ล้านกว่าตันเท่านั้น  

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรชาวสวนยางจำนวน 100,000 ตันนั้น จะต้องทำให้เกิดความยั่งยืน และไม่ใช่เพียงนำไปเก็บไว้ในสต๊อกเท่านั้น แต่จะต้องนำไปแปรรูปทั้งหมด เพื่อไม่ต้องซื้อยางพาราแปรรูปจากต่างประเทศ ในระยะยาวและปลูกเกษตรกรทราบดีว่าราคายางสูงเทียบเท่าสมัยอดีตไม่ได้ เนื่องจากน้ำมันมีราคาลดลงและความต้องการในประเทศลดลงเช่นกัน เมื่อมีการแปรรูปราคายางพาราแล้ว คาดว่าราคายางพาราจะขึ้นเอง เพราะไม่ได้เก็บไว้ในสต๊อก เนื่องจากต้องส่งไปยังโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้งทุกกระทรวงมีการเสนอแนวทางการใช้ยางพารามายังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งแนวทางต่อไปจึงมีการกำหนดว่านิคมอุตสาหกรรมยางพารา และจัดตั้งรัมเบิ้ลซี้ตี้ต่อไป เพื่อให้มีการใช้ยางพารามากขึ้น

ส่วนการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการแทรกแซงแต่ต้องทำให้เป็นไปตามกลไลราคาตลาด ซึ่ง กยท.มีความจำเป็นต้องช่วยเหลือเกษตรกรชาวยาง

ส่วนข่าวพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รู้สึกน้อยใจที่รัฐบาลมอบหมายให้แต่ละกระทรวงเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหายางพารา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้น้อยใจและจะน้อยใจได้อย่างไร แต่ต้องช่วยกันในระยะสั้น พร้อมเชื่อว่าพล.อ.ฉัตรชัย รู้และทำทุกอย่าง ว่าจะอาศัยคนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างไร และจะไม่ทำโดยไม่มีความรู้ แต่ต้องบูรณาการกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดการทำงานโดยเร็วบนพื้นฐานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าลาออกจากตำแหน่งอาจจะส่งผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น เป็นเพียงสื่อมวลชนเขียนกันเอง และไม่ใช่การน้อยใจเพราะทหารอาจจะน้อยใจบ้างและไม่ท้อแท้แต่ต้องสู้ต่อไป