*รองอัยการสูงสุด ชี้ ส่งฟ้องครบวงจรทุจริตข้าวที่ทำให้รัฐเสียหายแล้ว รอศาลฎีกาฯสั่ง 25 ก.พ.นี้*

13 มกราคม 2559, 12:07น.


การยื่นฟ้องเพิ่มเติมบุคคล และนิติบุคคล ในคดีการระบายข้าวแบบ จีทูจี หรือ (รัฐต่อรัฐ) ในโครงการรับจำนำข้าว นายพันธุ์โชติ บุญศิริ อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานการสอบสวน1 ในฐานะโฆษกสำนักอัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวว่า วันนี้สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ไปยื่นฟ้องบุคคล และนิติบุคคลในคดีนี้เพิ่มเติมอีก 7คนต่อศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองเพิ่มเติม ในฐานความผิดให้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ในโครงการคดีการระบายข้าวแบบ จีทูจี (รัฐต่อรัฐ) เพิ่มเติมหลังจากที่ก่อนหน้านี้ อัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องไปแล้ว 21คน ที่มีนายภูมิ สาระผล อดีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์,และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์



ด้านนายชุติชัย สาขากร รองอัยการสูงสุด กล่าวว่า หลังจากที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง จำเลยเพิ่มเติม รวมถึงคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือว่าครบวงจรการทุจริตที่ทำให้เกิดการเสียหายแก่รัฐตั้งแต่ต้น คือ ตั้งแต่ขั้นตอนรับข้าว จ่ายเงิน และดำเนินการโดยที่ข้าวไม่ได้มีการส่งไปต่างประเทศ แต่หมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง



ขณะที่นายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ชี้แจงขั้นตอนต่อจากนี้ว่า ต้องรอดูว่าทางศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง จะมีคำสั่งว่ารับหรือไม่รับพิจารณา ในวันที่ 25ก.พ.2559 เวลา 10.00น. ซึ่งถ้ามีคำสั่งรับ หลังจากวันที่ 25ก.พ. สำนักงานอัยการฯ ก็จะส่งหมายเรียกเพื่อให้จำเลยรับทราบ และการพิจารณาครั้งแรกของศาลฎีกาฯ จำเลยทุกคนต้องมา นอกจาก 7บุคคล และนิติบุคลที่ทางสำนักงานอัยการยื่นฟ้องเพิ่มเติมในคดีนี้ ก็ยังมีอีก 7คนที่เป็นชาวจีน ซึ่งขณะนี้ที่ยังไม่ยื่นฟ้อง เพราะกำลังอยู่ในขั้นตอนการแปลเอกสาร เพื่อส่งไปยังรัฐบาลจีนเพื่อขอให้ส่งตัวมาดำเนินการต่อไป สาเหตุที่ ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม 7คนถูกฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพราะ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ในส่วนของการขอเดินทางออกนอกประเทศของจำเลยในคดีนี้  รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีจำเลยคนใดในคดี ยื่นขอเดินทางออกนอกประเทศเลย



สำหรับรายชื่อ บุคคล นิติบุคคลที่ทางอัยการสูงสุดยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร โดยมีนายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นจำเลยที่ 1 ,นายทวีชัย อาจสมรรถ เป็นจำเลยที่ 2 ,บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด โดนมีนายทวี อาจสมรรถ เป็นกรรมการ จำเลยที่3 ,บริษัท เค.เอ็ม.ซี.อินเตอร์ไรซ์ (202) จำกัด โดยมีนายปกรณ์ ลีศิริกุล ในฐานะกรรมการ เป็นจำเลยที่4 ,นายนายปกรณ์ ลีศิริกุล จำเลยที่ 5 ,บริษัท เจียเม้ง จำกัด มีนางประพิศ มานะธัญญา เป็นกรรมการ จำเลยที่ 6 และนางประพิศ มานะธัญญา เป็นจำเลยที่ 7 ทั้งนี้จำเลยบางคนอาจมีชื่อถือหุ้นหลายบริษัท

ข่าวทั้งหมด

X