ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++ประเด็นร้อนแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช หลังมีกระแสข่าวการประชุมนัดพิเศษ ของกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เมื่อวันที่ 5 มกราคม ซึ่งเป็นการประชุมลับ และมีมติเอกฉันท์ให้เสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2505แก้ไขเพิ่มเติม 2535 คือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาส วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (มหานิกาย) ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แล้ว แต่ยังไม่มีคำยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หากเสนอชื่อและลงชื่อเห็นชอบแล้ว พศ.ต้องรอเอกสารเสนอชื่อจาก มส. คาดว่าตามขั้นตอนน่าจะเร็วๆนี้ สำหรับการประชุมมส.นัดพิเศษทราบว่ากรรมการมาเกือบครบองค์ประชุม 17 รูปขาดเพียง 2 รูปที่อาพาธคือ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุทัศนเทพวราราม “ส่วนรายชื่อที่มส.ลงความเห็นชอบเสนอตั้งเป็นสมเด็จพระสังฆราชนั้น พศ.จะยืนยันได้ต่อเมื่อชื่อส่งถึงมือแล้วเท่านั้น หลังมส.แจ้งรายชื่อผ่านพศ.แล้ว พศ.จะทำหน้าที่เหมือนบุรุษไปรษณีย์นำรายชื่อดังกล่าวเพียงชื่อเดียว เสนอให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยนายกฯไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงรายชื่อ เพราะกฎหมายระบุชัดว่า ให้นายกฯเสนอรายชื่อที่มส.เห็นชอบแล้วขึ้นไปทูลเกล้าฯ แต่ท้ายที่สุดขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจที่ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยลงมา
ด้านพระ พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยื่นรายชื่อ3แสนชื่อคัดค้านการตั้งสมเด็ชพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 เปิดเผยว่า จะยังไม่เคลื่อนไหวขณะนี้ โดยระบุว่า ดีเอสไอแจ้งว่า ได้ส่งหนังสือเตือนมส.เป็นฉบับสุดท้าย ให้ปฏิบัติตามลิขิตสมเด็จพระสังฆราชกรณีธัมมชโย ถ้ามส.ไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ดีเอสไอสามารถส่งฟ้องฐานทำผิดมาตรา 157 และมาตรา 112 ต่อไป ถ้าล่าช้าดีเอสไอจะมีความผิดในฐานะเจ้าพนักงานละเว้นปฎิบัติหน้าที่เช่นกัน ไม่หยุดต่อต้าน หากมีการแต่งตั้งบุคคลที่มีมลทิน และปัญหาความบริสุทธิ์ จะขอต่อต้านสุดลิ่มและขอเดิมพันด้วยจีวร จนกว่าจะถอดผ้าเหลืองกันไปข้างหนึ่ง ทั้งนี้ การต่อต้านดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องว่าต้องการให้บุคคลอื่นมาเป็นพระสังฆราชแทนสมเด็จฯช่วง เพราะลักษณะอย่างอาตมาไม่มีใครในเถรสมาคมจะมาคบค้าสมาคม
+++วันนี้ อัยการจะฟ้องเพิ่มคดีซื้อข้าวจีทูจี นายชุติชัย สาขากร รองอัยการสูงสุด อดีตอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ หัวหน้าคณะทำงานโครงการรับจำนำข้าว กล่าวว่า เป็นการฟ้องคดีอาญากลุ่มเอกชน ผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบและโดยทุจริตเพิ่มเติม กรณีการระบายข้าวแบบจีทูจีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยจะนำตัวบริษัทเอกชน เช่น เจ้าของโรงสีข้าว ส่งฟ้องเพิ่ม และจะแถลงข่าวเวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุม 303 สำนักงานอัยการสูงสุด
+++ก่อนหน้านี้อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 1, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว และพวก เป็นอดีตนักการเมือง 3 คน ข้าราชการการเมือง 3 คน และนิติบุคคลกับกรรมการผู้มีอำนาจในนิติบุคคล รวม 21 ราย เป็นจำเลยที่ 1-21 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ต่อศาลฎีกาฯนักการเมือง
++++คดีเกาะเต่า หนังสือพิมพ์เทเลกราฟของอังกฤษเสนอข่าวระบุ น.ส.ลอรา วิทเธอร์ริดจ์ พี่สาวของ น.ส.ฮันนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ ที่เสียชีวิตเพราะถูกฆาตกรรมที่เกาะเต่า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโจมตีการทำงานของตำรวจไทย อ้างโดนขู่ฆ่าและมีผู้เสนอเงินเพื่อปิดปาก นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเฟซบุ๊กของ น.ส.ลอรา พบว่าในเฟซบุ๊ก มีการลบข้อความที่เกี่ยวกับศาลออกไป โดยข้อความนี้ทางสำนักข่าวบีบีซี ได้มีการแปล การโพสต์ดังกล่าวของ น.ส.ลอรา ลงเป็นบทความเมื่อวันที่ 10 มกราคม เวลา 20.18 น. และหลังจากนั้น เมื่อเวลา 23.32 น. ของวันที่ 11 มกราคม ในเฟซบุ๊กของ น.ส.ลอรา มีการลบข้อความเกี่ยวกับศาลและเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมออกไป โดยข้อความที่โพสต์ถึง ถ้อยคำของผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ ระหว่างพิจารณาที่มีถ้อยคำกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่า ทางสำนักงานศาลยุติธรรมขอชี้แจงว่าการพิจารณาคดีดังกล่าวเป็นไปอย่างเปิดเผย และในระหว่างการพิจารณาคดี จะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอยู่ในห้องพิจารณาคดีด้วยทุกนัด หากมีเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะได้มีการกล่าวถึงประเด็นนี้ตั้งแต่ที่มีการพิจารณาแล้ว แต่กลับไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ระหว่างการพิจารณาเลย และไม่มีเหตุผลที่ทางผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่จะกล่าวถ้อยคำเช่นนั้น เพราะศาลยุติธรรมให้ความคุ้มครองฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตเช่นเดียวกับฝ่ายจำเลยตลอดการพิจารณา เหมือนเช่นคดี ทั่วๆ ไป
+++รัฐบาลมุ่งหน้า สร้างรายได้จากภาคท่องเที่ยวให้เป็นเครื่องยนต์สำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2559 ให้ทะยานต่อไปได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางมรสุมหลายปัจจัยรุมเร้า โดยเฉพาะภาคการ ส่งออกที่ยังน่าเป็นห่วง นาง กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ปรับเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวใหม่เป็น 2.41 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 1.1 แสนล้านบาท ผ่านมาตรการต่างๆ กระตุ้นให้คนไทย ตลอดจนกลุ่มกัมพูชา สปป.ลาว พม่า เวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี) รุกมาเที่ยวเมืองไทย ขณะเดียวกันก็ไม่หยุดทำแผนการตลาดจับ นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มีศักยภาพมาเที่ยวเมืองไทยไปด้วยเช่นกั
+++นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยืนยันว่า พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้รายได้การท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง โดยไม่เน้นจำนวนนักท่องเที่ยว ตอบสนองโครงการควิกวินของรัฐบาล อาทิ หารือกับกระทรวงการคลัง เรื่องปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟี) ในสนามบิน ให้เปิดจำหน่ายสินค้าสำหรับคนไทยที่เดินทางท่องเที่ยวเส้นทางบินภายในประเทศ อาจจะกระตุ้นช่วงเทศกาลสำคัญคล้ายกับมาตรการช้อปช่วยชาติ ขอความร่วมมือจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ลดค่าธรรมเนียมการจอดให้สายการบินต่างชาติช่วยทำการตลาดกระตุ้นนักท่องเที่ยวมาเมืองไทยมากขึ้น รวมถึงโครงการ "เที่ยวช่วยไทย" เป็นไฮไลต์กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นด้วยแรงจูงใจนักเที่ยวไทยลุ้นโชคเงินสด 1 ล้านบาท ในทุกๆ เดือน อาจมีรางวัลที่ 2 เป็นเงินสด 2 แสนบาท รวม 5 รางวัล แถมร่วมชิงรางวัลใหญ่ทั้งบ้านหรือรถยนต์ทุกๆ ไตรมาส
+++นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ระบุชัดว่า โครงการ "เที่ยวช่วยไทย" จะทำให้เงินสะพัดเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% หรือทำรายได้ให้การท่องเที่ยวภายในประเทศทะลุ 9 แสนล้านบาท จากเดิมคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 8.8 แสนล้านบาท ซึ่งสมาคมเคยเสนอรัฐบาลที่จะเอื้อให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยท่องเที่ยวและร่วมชิงโชคได้ด้วย เช่น อาจตั้งมูลค่า 500 บาท จะได้ตั๋วชิงโชค 1 ใบ หากซื้อทัวร์มูลค่า 1 หมื่นบาท อาจได้ตั๋วชิงโชค 20 ใบ หรือเข้าพักโรงแรมขนาดเล็ก 1 คืน คืนละ 1,500 บาท เท่ากับว่านักท่องเที่ยวได้ตั๋วชิงโชค 3 ใบ
+++สำหรับในวันนี้ 18.00 น. จะมีการเปิดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ที่สวนลุมพินี โดยมีพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ระหว่างวันที่ 13-17 มกราคม 2559 เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น งานนี้ แบ่งการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ประกอบด้วย 4 โซนหลัก โซนที่ 1 เส้นทาง "12 เมืองต้องห้ามพลาด" โซนที่ 2 เป็นหมู่บ้าน 5 ภาค รวมของดีทั่วเมืองไทยมาไว้ในโซนนี้ โซนที่ 3 รวมของดีจาก 50 ชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร และโซนที่ 4 เวทีใหญ่กับกิจกรรมสนุกๆ ทุกวัน ตั้งแต่เที่ยงวัน- 4 ทุ่ม
+++กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แจ้งว่า บช.น.ได้ออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่าด้วยเรื่องการห้ามรถทุกชนิดหรือบางชนิด เดินรถ ห้ามหยุดหรือจอดรถ ห้ามเลี้ยวรถและกำหนดช่องเดินรถหรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่องในถนนและซอย พ.ศ.2558 โดยข้อบังคับดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งถนนและตรอกซอยที่ออกข้อบังคับมีทั้งหมด 216 ถนน โดยมีทั้งห้ามจอดรถตลอดทั้งวัน ห้ามจอดรถทุกชนิด ตั้งแต่เวลา 06.00-09.00 น. และเวลา 16.00-21.00 น.และจอดได้เฉพาะวันคู่และวันคี่ ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันจราจรกทม.ติดขัดมาก บช.น.จึงจำเป็นต้องออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรปัจจุบัน เช่น ถนนหลวง ตั้งแต่แยกสะพานขาว-แยกผ่านฟ้า ถนนมิตรไมตรีฝั่งศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ตั้งแต่แยกถนนมิตรไมตรี ตลอดแนวสนามกีฬากรุงเทพ ถนนกำแพงเพชร 3 ตั้งแต่จุดตัดถนนกำแพงเพชร 4-ถนนพหลโยธิน ข้างสถานีตำรวจย่อยสน.บางซื่อ ถนนประเสริฐมนูกิจ ตั้งแต่เชิงสะพานบางบัว-แยกประเสริฐมนูกิจ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ทั้งฝั่งสองถนนหทัยราษฎร์ ตั้งแต่แยกตลาดหทัยมิตร-แยกถนนเลียบคลองสอง ถนนทรงสวัสดิ์ ตั้งแต่แยกท่าน้ำสวัสดี-แยกเฉลิมบุรี ถนนทรงวาด ตั้งแต่แยกซอยปทุมคงคา-แยกทรงวาดตัดถนนตรีมิตร ถนนตะนาว ตั้งแต่แยกตะนาว-แยกสี่กั๊กเสาชิงช้า ถนนรามคำแหง ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ตลอดแนว ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ตลอดแนว ถนนพระราม 9 ซอย 6 ตลอดแนว
สำหรับถนนที่กำหนดเวลาห้ามจอด ตั้งแต่เวลา 06.00-09.00 น. และเวลา 16.00-21.00 น.อาทิ ถนนจักรพงษ์ ถนนพระสุเมรุ ถนนลาดปลาเค้า ถนนวัชรพล ถนนรามอินทรา ตั้งแต่อนุสาวรีย์หลักสี่-กม.13 ถนนเสรีไทยคู่ขนาดมอเตอร์เวย์ ถนนอ่อนนุชตั้งแต่ปากซอยสุขุมวิท 77-ถึงจุดตัดถนนศรีนครินทร์ ถนนพระราม2 ถนนนาคนิวาส ฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดจอดรถในเขตที่มีเครื่องหมายห้ามจอดมีโทษปรับ 500 บาท