*อคส.หารือวันนี้แนวทางรับซื้อยางพารา/ปตทรับมือน้ำมันดิ่ง20เหรียญสหรัฐ/บอลไทยพบซาอุวันนี้ *

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.

+++วันนี้  พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) นัดหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางการรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรปริมาณ 1 แสนตัน  

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  การแก้ปัญหาราคายางตกต่ำนั้น รัฐบาลกำลังแก้ปัญหา อยู่ในลักษณะสองทาง คือช่องทางปกติของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการตั้ง คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เข้ามาแก้ปัญหา โดยรัฐต้องไปซื้อยางกับเกษตรกรเพื่อเป็นต้นทุนการผลิตให้แก่โรงงานที่เราส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี โดยซื้อยางในราคาที่เกษตรกรพออยู่ได้ พร้อมกันนี้จะหนุนผู้ประกอบการรายใหม่ให้สามารถนำไปสู่การผลิตที่มากขึ้น แต่การชำระต้นทุนคืนมา ก็ต้องให้เวลาผู้ประกอบการ เพราะเพิ่งทำได้ยังไม่มีกำไร เป็นการสตาร์ทอัพเอสเอ็มอี โดยเราไปสร้างความเข้มแข็งให้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็จะไม่เกิดวงจรการผลิต ก็จะกลายเป็นว่าไปซื้อ มาแล้วเก็บเข้าคลังก็เน่าเหมือนเดิม  โดยวันนี้กระทรวงที่ไปซื้อยางนั้น ไม่ได้มีการอนุมัติงบประมาณใหม่ให้ แต่ให้ใช้งบประมาณภายในทำไปก่อน ไม่ใช่ไปของบประมาณเพิ่ม

+++แหล่งข่าวจากที่ประชุมครม.กล่าวว่า ที่ประชุม มีมติเห็นชอบกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหายางพารา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรยางพาราเป็นกรณี เร่งด่วน ที่เสนอโดยพล.อ.ประวิตร ในฐานะรองประธานกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งเสนอเป็นวาระเร่งด่วน โดยสาระสำคัญ ในการกำหนดกรอบวงเงินในการให้ความช่วยเหลือให้เหมาะสมกับยางแต่ละประเภท เช่น ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ยางแผ่นดิบ น้ำยางสด ยางก้อนถ้วย ยางแท่ง

+++สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)ได้กำหนดต้นทุนราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 กิโลกรัมละ 64.21 บาท เมื่อพิจารณาประกอบกับ ราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นฐานในการคำนวณค่าครองชีพแล้ว เห็นว่าราคาที่เหมาะสมในการรับซื้อ ครั้งนี้ ไม่ควรเกินกิโลกรัมละ 60 บาท หรือตันละ 60,000 บาท สำหรับในช่วงฤดูก่อนการปิดกรีด ประมาณการผลผลิตยางในตลาดได้ 6-8 แสนตัน เบื้องต้นเห็นสมควรรับซื้อในปริมาณ 2 แสนตัน ใช้วงเงินรองรับการดำเนินการดังกล่าว รวมเป็นเงิน 12,000 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการช่วยเหลือในกรณีเร่งด่วน โดยพิจารณาค่าใช้จ่ายจากเงินงบประมาณของส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ พร้อมกับขออนุมัติเงินงบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และ เงินกองทุนพัฒนายางพารา

+++ส่วนการดำเนินการกำหนดให้ผู้ได้รับประโยชน์จะต้องเป็นเกษตรกรยางพาราที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพร่วมกับส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ส่วนราชการหรือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ฯลฯ ตรวจสอบคัดกรองเกษตรกรยางพาราที่จะให้ความช่วยเหลือให้ชัดเจน สำหรับ เงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางและคนกรีดยางพาราไร่ละ1500บาทที่ ครม.ได้อนุมัติไป ก่อนหน้านี้1.3หมื่นล้านบาทให้แล้วเสร็จในเดือนม.ค.นี้ จากเดิมที่กำหนดให้จ่ายให้แล้วเสร็จในเดือน ก.พ.เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน

+++ส่วนในเช้าวันนี้  สภาเกษตรกรแห่งชาติ จัดงาน "โครงการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของเกษตรกรและเครือข่ายชาวสวนยางในภาวะราคายางตกต่ำ" ที่ ห้องประชุมจักรพันธุ์ กรมการข้าว ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพมหานคร 

+++ครม.ยังเห็นชอบให้ดำเนินโครงการบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบการสวนยาง ได้แก่ จัดทำโครงการลดภาระค่าครองชีพโดยมอบข้าวขาว 5%คุณภาพดี ปริมาณรวม 8 แสนครัวเรือน รวม4ล้านถุงแจกจ่ายให้กับเกษตรกรใน 68 จังหวัด โดยดำเนินการภายในเดือน มี.ค.นี้ใช้วงเงิน 300 ล้านบาทในการดำเนินการ ส่วนกรมการค้าภายในดำเนินโครงการธงฟ้า ใน14จังหวัดภาคใต้ โดยนำสินค้าอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นลงไปจำหน่ายในพื้นที่ในราคาต่ำกว่าตลาด20-40%ใช้งบประมาณ 17 ล้านบาท ด้าน ตัวแทนเครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ จากทั้ง 14 จังหวัด ให้เวลารัฐบาลในการผลักดันราคายางพารา เป้าหมายอยู่ที่ กก.ละ 60 บาท ภายใน 30วันหากครบกำหนด 30 วัน แล้วรัฐบาลยังทำไม่ได้ ภาคีเครือข่าย ชาวสวนยางทั้งหมดจะกลับมาหารือ เพื่อ กำหนดการเคลื่อนไหวภายใต้กฎหมาย มาตรา 44 ต่อไป

+++ผู้บริหารกลุ่ม ปตท.ชี้แจงแผนดำเนินธุรกิจในปีนี้ ท่ามกลางแนวโน้มราคาน้ำมันขาลง โดยมั่นใจว่ารับผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ จากการบริหารและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง  นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทาง ธุรกิจปี 2559 ของกลุ่มปตท.ว่ากำลังติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อย่างใกล้ชิด หลังราคาน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ต่ำสุดในรอบ 12 ปี และน้ำมันดิบดูไบต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเบื้องต้นประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบจะขยับขึ้นในไตรมาสที่ 2 เพราะผู้ผลิตหลายแหล่งอาจจะปิดหรือลดกำลังผลิตสวนทางกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

+++แต่ถ้าราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้ต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล ปตท.ก็ต้องระมัดระวังการลงทุนและชะลอการลงทุนใหม่ในต่างประเทศ เพราะปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของบริษัท คือกระแสเงินสด แต่ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่า ปตท. อยู่รอดได้ในภาวะที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยไม่ต้องหาแหล่ง เงินทุนใหม่และสามารถลงทุนตามแผนได้ ส่วนธุรกิจต้นน้ำที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็ทดสอบแล้วว่า แหล่งผลิต ในอ่าวไทยอยู่รอดได้ในภาวะราคาน้ำมัน 30 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล เพราะต้นทุนเงินสด (Cash cost) ที่ต้องดำเนินธุรกิจตามปกติอยู่ที่ 18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถ้าราคาน้ำมันลดลงเหลือ 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็ไม่ถึงกับหยุดผลิตแต่การพัฒนาต่อไปต้องคิดสักนิดนึง

+++นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือTOP กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงส่งผลให้ผลประกอบการปี 2558 อยู่ในเกณฑ์ดี เพราะต้นทุนทางการเงินและต้นทุนราคาพลังงานที่ใช้ในกระบวนการผลิตลดลง ความต้องการน้ำมันสูงขึ้น บริษัทเพิ่มประสิทธิภาพของโรงกลั่น เพื่อขยายกำลังการกลั่นจาก 275,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 300,000 บาร์เรลต่อวัน

+++นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการปีก่อน  ยังมีกำไร และคาดปีนี้ เป็นไปตามเป้า

+++นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าถ้าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 40-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้กำไรเบื้องต้นมีโอกาสสูงกว่าปีก่อน แต่ภาพรวมของธุรกิจในปีนี้อยู่เกณฑ์ดีและคาดว่าน่าจะไม่มีการขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน

+++วันนี้เวลา 07.30 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในวันสถาปนากองทัพภาคที่ 1 ครบรอบ 106 ปี ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 เขตดุสิต กรุงเทพฯ ร่วมด้วยพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก

+++สาย ๆ วันนี้  พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมแถลงฯ ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ชั้น ๒ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพ ด้านนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า  เรือนจำสมุทรปราการ ส่งตัวนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ผู้ต้องขังคดีทุจริตเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการปี 2542 ซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้ต้องโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. 2558 มารักษาตัวด้วยอาการเจ็บหน้าอกและโรคหัวใจที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตามที่ผู้ต้องขังปรากฎอาการและแจ้งเจ้าหน้าที่เรือนจำทราบ โดยล่าสุดยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ โดยส่งต่อมารักษาตัวที่รพ.ตำรวจ พร้อมปฎิเสธข่าวเตรียมปล่อยตัวพักการลงโทษชั่วคราวนายชนม์สวัสดิ์  ซึ่งต้องโทษเป็นเวลา 6 เดือน

+++ทีมฟุตบอลชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี หายกังวลแล้วเมื่อ “เมสซี”ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีม ที่ก่อนหน้านี้ มีอาการไข้หวัดเล่นงาน แต่ล่าสุดอาการดังกล่าวดีขึ้น พร้อมทำศึกฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 12-30 ม.ค.นี้ โดยวันนี้ ทีมชาติไทยจะพบซาอุดีอาระเบีย เวลา 23.30 น., วันที่ 16 ม.ค. พบญี่ปุ่น เวลา 20.30 น. และวันที่ 19 ม.ค. พบเกาหลีเหนือ เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี โดยรายการนี้จะคัด 3 ทีม ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 เดือน ส.ค. ที่ประเทศบราซิล