มติครม.ตั้งพล.อ.ฉัตรเฉลิม นั่งบอร์ดการยาง เร่งรับซื้อยางราคานำตลาด

12 มกราคม 2559, 16:30น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเหนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี มีมติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย  จำนวน 8 คน ดังนี้ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เป็นประธานกรรมการ



นายประสิทธิ์ หมีดเส็น   ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง



นายสังข์เวิน ทวดห้อย   ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง



นายเสนีย์ จิตตเกษม       ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง



นายธีรพงศ์ ตันติเพชราภรณ์  ผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง



นายสาย อิ่นคำ  ผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง



นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้ประกอบกิจการยางที่มีความเชี่ยวชาญด้านการค้า



นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ผู้แทนผู้ประกอบกิจการยางที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตอุตสากหรรมยาง



ส่วนมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง สำหรับราคาของยางพาราจะรับซื้อในลักษณะราคานำตลาดเพื่อให้ราคาสูงขึ้น โดยมอบหมายให้ องค์กรสงเคราะห์การทำสวนยาง (อคส.)  ดูความเหมาะสมของราคาในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่พึ่งพอใจของเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งจากการสำรวจความต้องการใช้ยางพาราของแต่ละกระทรวง มีทั้งสิ้นประมาณ 1 แสนตัน โดยยางพาราที่รับซื้อจะนำเข้าสู่กระบวนการผลิตของโรงงาน และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะนำเทคโนโลยีที่ผ่านมาตรฐานเร่งผลิตและให้หน่วยงานของรัฐจะซื้อผลผลิตจากโรงงาน



นอกจากนี้ยังมีโครงการแจกข้าวสารคุณภาพขนาดถุงละ 5 กิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา 8 แสนครัวเรือนที่ลงทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประมาณ 4 ล้านถุง วงเงินประมาณ 300 ล้านบาท  และมีมาตรการลดภาระค่าครองชีพ จากกระทรวงพานิชย์พาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จัดขายสินค้าธงฟ้าราคาถูกกว่าตลาด 20-40% ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้งบประมาณ 14 ล้านบาท ส่วนกรมการค้าระหว่างประเทศ จัดกิจกรรมเยือนประเทศคู่ค้า คาดว่าจะมีซื้อขายประมาณ 1000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3600 ล้านบาท



ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรม คาดว่าในปี 2559 จะเปิดโรงงานที่แจ้งความประสงค์ได้ 79 โรงงาน เพื่อรับผลผลิตยางมาผลิตสินค้าได้ 870,000 ตัน ส่วนโรงงานที่เปิดดำเนินการแล้วได้ขอความร่วมมือให้รับซื้อเพื่อเพิ่มสต็อกการผลิต จากการสำรวจมีประมาณ 10 โรงงานที่มีความพร้อมรอการสั่งซื้อจากรัฐบาล



นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าความต้องการของตลาดมีน้อยกว่าผลการผลิต ดังนั้น ขอให้เกษตรกรชาวสวนยาง ลดการผลิต และ เปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน ส่วนการจ่ายเงิน 1500 บาทต่อไร่สำหรับผู้ที่ไม่มีเอกสารสิทธ์ ในการเพาะปลูกจะแล้วเสร็จในเดือนมกราคมนี้ ซึ่งจะให้กองทุนหมู่บ้านเข้าไปดูแล

ข่าวทั้งหมด

X