การเคลื่อนไหวของเกษตรกรชาวสวนยาง ในวันที่ 12 ม.ค. นี้นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่ใช่การชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาล แต่เกษตรกรชางสวนยางจาก 17 ภาคใต้นัดประชุมกันที่จังหวัดตรัง เพื่อหาข้อสรุปปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนยางในแต่ละพื้นที่ เพราะเกษตรกรแต่ละท้องที่มีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน เพื่อเสนอให้รัฐในการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลางและแบบยั่งยืน โดยเฉพาะปัญหาเร่งด่วนคือเรื่องราคายางที่ตกต่ำ โดยเข้าใจว่ารัฐบาลจะทำให้ยางขึ้นไปอยู่ในราคากิโลกรัมละ 80 บาท ภายในระยะเวลาเร่งด่วนไม่ได้ แต่เกษตรก็ไม่สามารถอยู่ได้ หากราคายางยังอยู่ที่ 4 กิโลกรัม ต่อ 100 บาท ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว หากไม่มีตัวแทนของรัฐบาลมารับข้อเสนอ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ อาจจะเดินทางไปมอบข้อเสนอให้รัฐบาลที่กรุงเทพมหานครต่อไป
ส่วนข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ชาวสวนยางหันไปปลูกสตอว์เบอร์รี่ และกล้วย แทนการปลูกยางนั้น นายบุญส่งกล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ขาวสวนยางเป็นอย่างมาก และเข้าใจว่าผู้ที่ให้ข้อมูลแก่นายกรัฐมนตรีคงไม่มีความรู้เรื่องยางมากเพียงพอ เพราะสตอว์เบอร์รี่เป็นพืชที่ไม่เหมาะกับการเพาะปลูกในสภาพภูมิกาศ และภูมิประเทศทางภาคใต้ ส่วนกล้วย สามารถปลูกได้ในข่วงโค่นยางต้นเก่าเพื่อปลูกต้นใหม่ แต่ไม่สามารถปลูกแซมไปกับสวนยาง เพราะยางมีร่มเงาทำให้กล้วยไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเกษตรกร ได้มีการปรับตัวไม่พึ่งพาการปลูกยางเพียงอย่างเดียว การปลูกพืชอย่างอื่น เช่นปลูกข้าวไร่ในสวนยาง หรือ ทำบ่อเลี้ยงปลาแต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น นอกจากนี้ยังมีการรวมตัวกันทำกองทุนข้าวสารเพื่อลงขันกันซื้อข้าวสารในราคาถูกอีกด้วย
...
ผสข. ปิยะธิดา เพชรดี
แฟ้มภาพ