*รมว.ท่องเที่ยวฯชูจังหวัดนครพนมเด่นประวัติศาสตร์ มีความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุพนม*

การเปิดโครงการ "ไหว้พระธาตุพนม เสริมบุญบารมีปีวอก" ที่วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร อ. ธาตุพนม จ. นครพนม ในวันนี้นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เป็นประธานในการนำเครื่องสักการะบูชา ขันหมากเบ็ง ถวายแด่องค์พระธาตุพนม โดยนางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีสิ่งดีๆ ที่ไม่ควรมองข้าม จังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดที่มีจุดเด่น มีของดีที่อยากเชิญชวนคนไทยและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว โดยจังหวัดนครพนม ถือเป็นจังหวัดที่ประชาชนในพื้นที่มีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย มีประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ยาวนาน ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็จะทำหน้าที่สานต่อสิ่งดีๆ เหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจังหวัดนครพนมก็จะมีผ้าที่สวย มีทางจักรยานที่คาดว่าจะเป็นทางจักรยานที่สวยที่สุดในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เที่ยวในจังหวัดนครพนมแล้วกว่า 9 แสนคน ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงมีการกระจายแหล่งท่องเที่ยวให้ทั่วจังหวัด เพื่อไม่ให้มีการกระจุกตัว

ด้านนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จุดเด่นของจังหวัดนครพนม มี 1-3-5-7-9 หมายความว่า 1 คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่ 1 ในจังหวัดนครพนม ได้แก่ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ที่ทุกคนให้การสักการะ โดยผู้ที่มาจังหวัดนครพนม จะต้องแวะมาสักการะ ไม่เช่นนั้นเรียกว่ามาไม่ถึง 3 คือ สะพานมิตรภาพ 3 (พนม-คำม่วน) ที่เปรียบเสมือนประตูสู่อาเซียน เชื่อมต่อ 3 ประเทศ ได้แก่ ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา นครพนมมีสินค้านำเข้าส่งออกเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20 เท่า มูลค่าหลายแสนล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่แห่งนี้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก

สำหรับเลข 5 คือ ความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติ ของจังหวัดนครพนม ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และทอง ส่วนเลข 7 คือ จำนวนพระธาตุประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน ได้แก่ วันจันทร์ พระธาตุเรณู, วันอังคาร พระธาตุศรีคุณ, วันพุธ (กลางวัน) พระธาตุมหาชัย, วันพุธ (กลางคืน) พระธาตุมรุกขนคร, วันพฤหัสบดี พระธาตุประสิทธิ์, วันศุกร์ พระธาตุท่าอุเทน, วันเสาร์ พระธาตุนคร, วันอาทิตย์ พระธาตุพนมวรมหาวิหาร

ส่วนเลข 9 ในที่นี้ หมายถึง ชนเผ่าในจังหวัดนครพนม โดยจะมี 7 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ ได้แก่ ชนเผ่าไทยญ้อ, ชนเผ่าไทยกะเลิง, ชนเผ่าไทแสก, ชนเผ่าไทยโส้, ชนเผ่าไทยข่า, ชนเผ่าไทยอีสาน, ชนเผ่าภูไท, เชื้อชาติ เวียดนาม และเชื้อชาติจีน รวมเป็น 9 ชนเผ่า

สำหรับประวัติความเป็นมาของพระธาตุพนม ตามตำนานกล่าวว่าสร้างมานาน ไม่น้อยกว่า 2,300 ปี ผู้ที่สร้าง คือ พระมหากัสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ได้นำพระอุรังคธาตุหรือกระดูกหน้าอก ของสมเด็จพระพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ในพระธาตุ โดยผู้ที่ร่วมสร้างที่บรรจุพระธาตุแห่งนี้ คือ ท้ายพระยาเมืองต่าง ๆ พญานันทเสน เมืองศรีโคตรบูรณ์ (เมืองนครพนม เดิม) พญาจุลนีพรหมทัด พระยาอินทรปัตนคร และพญาดำแดง เมืองหนองหารน้อยลักษณะของวัดพระธาตุพนม เป็นรูปสี่เหลี่ยมก่อด้วยอิฐ มีลวดลายสลักลงบนแผ่นอิฐสวย งามมาก มีซุ้มกั้นด้านและซุ้มซ้อนกันสามชั้น ลดหลั่นกันลงมา แล้วจึงถึงองค์พระสถูป เบื้องบนยอดพระธาตุหุ้มทองคำประดับพลอย

โดยพระธาตุพนม เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประชาชนลาว ในช่วงงานนมัสการพระธาตุพนมประจำปี ก็จะมีตั้งแต่วันที่ 10 เดือน 3 ของทุกปีเป็นวันเริ่มต้น และสิ้นสุดในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ขณะที่วัดแห่งนี้ก็ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตามประวัติเมื่อถึงคราวพระราชพิธีราชาภิเษกทุกรัชกาล จะต้องนำน้ำจากสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ไปร่วมพิธีด้วยเพื่อประกอบพิธีมุรธาภิเษก และเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานต้นไม้ ทอง เงิน น้ำอบและผ้าคลุมส่งไปนมัสการพระธาตุพนมทุกปี
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข