*ตัวเลขเงินเฟ้อจีน ตัวชี้วัดทิศทางสัปดาห์หน้า/สนช.เตรียมตั้งกมธ.เสริมสร้างสังคมสันติสุข*

+++กรณีที่ตลาดหุ้นจีน ยกเลิกการใช้มาตรการหยุดการซื้อขายชั่วคราว (Circuit breaker) หลังจากต้องหยุดทำการซื้อขายเป็นการชั่วคราวเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 วัน เพราะตลาดหุ้นจีนร่วงแรงกว่าร้อยละ 7 ประกอบกับทางการจีน ออกมาตรการกำหนดให้กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ห้ามขายหุ้นเกินร้อยละ1 ของหุ้นที่ถือทั้งหมดระยะเวลา 3 เดือน และหากต้องการขายหุ้นจะต้องแจ้งแผนการปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ทราบก่อนล่วงหน้า 15 วัน กฎใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้วันที่ 9 มกราคมนี้

+++นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดหุ้นจีนจะยังเป็นตัวชี้นำทิศการลงทุนตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นไทย ซึ่งต้องติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีน สหรัฐฯ และ ยุโรป ด้วย ตลท.ยืนยันมีมาตรการดูแลตลาดหุ้นเหมือนกับตลาดหุ้นจีนเช่นกัน ด้วยการใช้มาตรการ Circuit breaker หากดัชนีปรับตัวลดลงร้อยละ 10 มั่นใจว่า มาตรการนี้จะสามารถรองรับสถานการณ์ได้

+++ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทยยังผันผวนตามตลาดหุ้นภูมิภาคโดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน แต่มีโอกาสฟื้นตัวบ้าง คาดว่าการฟื้นตัวจะยังอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกหนุนใหม่ หุ้นในกลุ่มพลังงาน ยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนจะชะลอการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงก่อนตลาดจะปิดทำการในช่วงวันหยุด อีกทั้งยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนธันวาคมของสหรัฐที่จะประกาศออกมาคืนนี้ และตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของจีนที่จะประกาศวันที่ 9 มกราคม หากตัวเลขยังออกมาชะลอตัวจะสร้างความกังวลให้กับตลาดและเป็นปัจจัยกดดันต่อทิศทางการลงทุนได้อีกในสัปดาห์หน้า

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดที่1,244.18 จุด เพิ่มขึ้น 19.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,921.30 ล้านบาท

+++ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ลดลง 69.38 จุด ปิดที่ 17,697.96 จุด ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 120.37 จุด ปิดที่ 20,453 .71 จุด

+++กรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เตรียมจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุข นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการจัดตั้ง แต่คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ มีหน้าที่ศึกษาหาแนวทางสร้างความปรองดองและสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมไทย มีประมาณ 20 กว่าคน โดยจะเชิญคู่ขัดแย้งในสังคมทุกฝ่าย ทั้งกลุ่มการเมือง อาทิ นปช. กปปส. ตลอดจนพรรคการเมืองมาร่วมเป็น กมธ.วิสามัญฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาตัวคนในสนช. มาทำหน้าที่ประธาน กมธ.ชุดดังกล่าว แต่ยังไม่กำหนดกรอบเวลาทำงาน จะทำให้เร็วที่สุด แต่ระยะเวลาสูงสุดคงไม่เกิน 180 วัน คาดว่าในสัปดาห์หน้าคงหาตัวประธาน กมธ.ได้ หลังจากนั้นจะเสนอเป็นญัตติต่อที่ประชุม สนช. เพื่อขอความเห็นชอบจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุขต่อไป

+++ประธานสนช. กล่าวว่า หลังจากที่ กมธ.ทำงานจนได้ข้อสรุปแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะพิจารณาว่า แนวทางใดจำเป็นต้องส่งให้รัฐบาล หรือส่งให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ดำเนินการ หรือมีความจำเป็นต้องออกเป็นกฎหมาย เพื่อเป็นแนวทางเริ่มต้นนำไปสู่การสร้างสันติสุขในสังคม ส่วนจะมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ ยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับความเห็นของกมธ. แต่ส่วนตัวมองว่า การนิรโทษกรรมเป็นกระบวนการปลายทาง

+++นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) แถลงภายหลังการประชุม ว่า อนุกรรมการศึกษาโครงสร้างฝ่ายนิติบัญญัติ ได้นำเสนอเนื้อหาบางส่วนที่ยังไม่ได้ข้อยุติมาหารือเตือนให้ต้องมีการกำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ เช่น คำถามว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าควรมีหรือไม่ เพราะกระบวนการหละหลวม เจ้าหน้าที่ควบคุมมีน้อย เอื้อต่อการทุจริต สิ้นเปลืองงบประมาณ

+++กรอบเวลาการร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงกำหนดร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกจะแล้วเสร็จ ในวันที่ 29 ม.ค. ระหว่างเดือนก.พ. - มี.ค.จะทำความเข้าใจถึงเหตุผลของร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นของใหม่ และเปิดรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะก่อนการจัดทำร่างสุดท้าย และตั้งแต่เดือน เม.ย.จนถึงวันทำประชามติ กรธ.ก็จะชักชวนประชาชนให้มองไปข้างหน้าว่าเมื่อร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว ยังจะต้องมีการร่างกฎหมายลูกอีกหลายฉบับ เปิดให้ประชาชนร่วมเสนอความเห็นต่อการร่างกฎหมายลูก อนุกรรมการฯ ยังได้เสนอสโลแกนเบื้องต้น ที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญได้ง่ายกว่าการไปนั่งอ่านภาษากฎหมายให้ปวดหัวคือคือ “รัฐธรรมนูญใหม่ การเมืองใหม่”และ “ปลอดการทุจริต ต่อชีวิตให้บ้านเมือง”

+++ส่วนแนวทางการประชุม กรธ. ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ระหว่างวันที่ 11 - 17 ม.ค.  นายชาติชาย กล่าวว่า ที่ประชุม กรธ.จะพิจารณาเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ แล้วจะนำเสนอเนื้อหาเป็นรายมาตราให้ผู้สื่อข่าวนำไปเผยแพร่แบบวันต่อวัน คาดว่าวันที่ 17 ม.ค. น่าจะพิจารณาร่างแรกเสร็จ เบื้องต้นเนื้อหาตอนนี้มีประมาณ 250 มาตรา ซึ่ง กรธ.หลายคนก็ตั้งใจอยากให้เนื้อหามีความกระชับมากกว่านี้ หากปรับลดได้ก็อยากทำ

+++บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในวันนี้ มีเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมือง ได้รับผลกระทบจะการฝึกซ้อมใหญ่แสดงการบินของกองทัพอากาศ ในวันเด็กแห่งชาติ  ช่วงเวลา 8.15 -8.50 น. ทั้งสิ้น 12 เที่ยวบิน โดยเฉลี่ยล่าช้าเที่ยวบินละ 30-60 นาที เนื่องจากไม่สามารถวิ่งขึ้นได้ก่อนเวลาการซ้อม หลังเกิดสภาพอากาศหมอกลงจัดและปริมาณเที่ยวบินในช่วงก่อนการฝึกซ้อมฯหนาแน่น จนทำให้เกิดการล่าช้าของเที่ยวบินขาออก แต่เที่ยวบินขาเข้าไม่มีปัญหา ต่อมาเวลา 8.50-10.00น. สนามบินดอนเมืองได้เปิดให้บริการฯ

+++ส่วนการฝึกซ้อมฯช่วงที่ 2 เวลา 10.00-10.20 น.หลังการฝึกซ้อม ทุกเที่ยวบินสามารถขึ้นลงได้ตามตารางการบินปกติ ไม่มีการล่าช้าเช่นกัน

+++นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวถึง การจัดงานวันเด็ก 9 ม.ค.ว่าขอให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินดอนเมืองเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง และให้ตรวจสอบตารางการบินกับสายการบินที่เดินทางอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจมีเที่ยวบินเปลี่ยนแปลงเวลาการเดินทาง เนื่องจากในวันที่ 9 ม.ค.อาจมีเที่ยวบินได้รับผลกระทบจากการแสดงการบินโชว์วันเด็กของกองทัพอากาศเพิ่มขึ้น เพราะจะมีการแสดงการบินแบ่งเป็น 5 ช่วงเวลา ตั้งแต่เวลา 8.15-15.00 น. ส่วนการเปลี่ยนแปลงตารางบินวันที่ 9 ม.ค.นี้ ล่าสุดได้รับการแจ้งว่ามีสายการบินยกเลิกแล้ว 36 เที่ยวบิน แบ่งเป็นนกแอร์ 22 เที่ยวบิน ไทยแอร์เอเชีย 12 เที่ยวบิน สนามบินดอนเมืองได้วางแผนจัดการจราจรทางอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว

+++เอเอฟพี รายงานอ้างนายเบนจามิน แวกเนอร์ อัยการสูงสุดประจำรัฐแคลิฟอร์เนียและนายเคน แพ็กซ์ตัน อัยการสูงสุดประจำรัฐเท็กซัส สหรัฐฯว่า เจ้าหน้าที่จับ ผู้ต้องหาชาวปาเลสไตน์เชื้อสายอิรัก ที่มีส่วนพัวพันกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ได้สองคน คือ นายออว์ส โมฮัมเหม็ด ยูนิส อัลจายับ วัย 23 ปี และนายโอมาร์ ฟารัจ ซาอีด อัลฮาร์ดัน วัย 24 ปี จะถูกควบคุมตัวไปขึ้นศาลในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเท็กซัสเพื่อชี้ขาดว่ามีมูลพอที่จะพิจารณาคดีต่อไปหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลว่า ทั้งสองมีแผนการเพื่อโจมตีสหรัฐฯ

+++สำหรับผู้ต้องหารายแรกถูกจับกุมในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวานนี้ ฐานใช้เอกสารปลอมว่าเป็นผู้อพยพซีเรีย ในการยื่นเรื่องขอเข้าเมืองเมื่อปี 2555 เขาเดินทางไปยังซีเรียในปีต่อมา เพื่อร่วมสู้รบกับกลุ่มหัวรุนแรงหลายกลุ่มรวมถึงกลุ่มอันซาร์ อัลอิสลาม ซึ่งมีที่มั่นอยู่ทั้งในอิรักและซีเรีย

+++ส่วนนายโอมาร์ ฟารัจ ซาอีด อัลฮาร์ดัน ถูกจับกุมในมลรัฐเท็กซัสเมื่อวันพุธ ในข้อหาให้การสนับสนุนแก่กลุ่มไอเอส ใช้เอกสารปลอมว่าเป็นผู้อพยพอิรัก ในการยื่นขอเข้าสหรัฐฯเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552การจับกุมครั้งนี้มีขึ้นหลังสหรัฐฯเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น