หลังจีนลดค่าเงินหยวน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าจะก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดโลกหลายประเทศ ขณะที่ประเทศไทยยังมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจึงไม่น่าเป็นห่วง ขณะนี้รัฐบาลเตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว เพราะหารือกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาแล้ว 3-4 วันก่อน เพื่อร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รับมือปัญหาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตลาดเงิน ตลาดทุน จึงไม่ต้องกังวลปัญหาที่เกิดขึ้น มองว่าเมืองไทยจะไม่มีปัญหาผลกระทบอย่างรุนแรง โดย ธปท.คอยดูแลอัตราแลกเปลี่ยนว่าค่าเงินบาทระดับไหนเหมาะสมกับเมืองไทย จึงไม่อยากให้หลายฝ่ายมีความกังวล
สำหรับการแก้ปัญหาราคายางพารา โดยนายกรัฐมนตรีต้องการให้ปฏิรูปภาคเกษตรอย่างจริงจัง เพราะการช่วยเหลือเป็นการดูแลเพียงระยะสั้น ดังนั้น ระยะยาวต้องการให้ยางพารามีราคา มีการเพิ่มมูลค่าการผลิตผ่านสินค้าแปรรูป จึงต้องมีดูภาพระยะสั้นและระยะยาว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผลกระทบจากปัญหาของเศรษฐกิจจีนระยะสั้นยอมรับกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุนถือเป็นเรื่องปกติที่กระทบไปทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะไทยอย่างเดียว ยืนยันว่ารัฐบาลมีความพร้อมในการรับมือจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญไทยต้องเร่งดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข็มแข็ง เพื่อรองรับปัญจัยเสี่ยงที่กระทบมาจากต่างประเทศ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจจีน ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง สหรัฐมีแนวโน้มปรับดอกเบี้ยสูงขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงกระทบเศรษฐกิจโลกและประเทศไทยระยะต่อไป
โดยเฉพาะปัญหาของจีนหากชะลอตัวมากจะกระทบการส่งออกของไทยค่อนข้างมาก รัฐบาลจึงเร่งเดินหน้าการลงทุนภาครัฐและผลักดันการลงทุนของเอกชน และกระตุ้นการบริโภคในประเทศเพื่อประครองเศรษฐกิจภายในไม่ให้ได้รับผลกระทบที่รุนแรง โดยต้องดูแลปัญหากลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม
ธนาคารกลางจีนได้ปรับค่ากลางเงินหยวนแข็งค่าขึ้นในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วัน หลังจากมีการปรับลดค่ากลางเงินหยวนลง 8 วันติดต่อกัน การดำเนินการล่าสุดของธนาคารกลางจีนได้ช่วยสร้างเสถียรภาพแก่เงินหยวน โดยทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ โดยกำหนดค่ากลางเงินหยวนที่ 6.5639 หยวนต่อดอลลาร์ในเช้าวันนี้ ซึ่งปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับค่ากลางเมื่อเช้าวานนึ้ที่ 6.5646 หยวนต่อดอลลาร์