การเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยผู้ต้องขังจากเรือนจำออกสู่สังคม หลังจากที่กระทรวงยุติธรรม เตรียมที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณางบประมาณเพื่อจัดสร้างเรือนจำโครงสร้างเบา แบบน๊อกดาวน์ จำนวน 17 แห่ง เพื่อเป็นสถานที่รองรับและเตรียมความพร้อมแก่ผู้ต้องขังก่อนที่จะมีการปล่อยตัวออกสู่สังคมภายนอก ในวันนี้ นายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำสื่อชมสถานที่ดำเนินการ เรือนจำโครงสร้างเบา พร้อมโปรแกรมการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยผู้ต้องขัง ที่ทัณฑสถานเปิดบ้านเนินสูง (เรือนจำนำร่อง) จ.ปราจีนบุรี พื้นที่นำร่องในการวางแผนรูปแบบเรือนจำโครงสร้างเบามาใช้เนื่องจากกรมราชทัณฑ์ประสบปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำมาเป็นระยะเวลานานจากการที่ผู้ต้องขังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ เรือนจำโครงสร้างเบา จะเป็นเรือนจำที่สร้างจากตู้คอนเทนเนอร์ และใช้สำหรับความพร้อมของผู้ต้องขังก่อนที่จะมีการปล่อยตัวออกสู่สังคมภายนอกโดยจะมีการฝึกทักษะวิชาชีพและการดำเนินชีวิต สำหรับผู้ต้องขังแต่ละคน นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกอาชีพเพื่อให้สามารถออกไปประกอบอาชีพและเอาตัวรอดได้ในสังคม โดยจะมีกรมคุมประพฤติเข้ามาเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลความพร้อมก่อนที่จะปล่อยตัวผู้ต้องขังจำนวนนี้ และจะจัดบ้านกึ่งวิถี หรือบ้านพักอาศัยชั่วคราวสำหรับผู้ต้องขังที่ยังไม่พร้อม โดยจะมีการฝึกอบรม ฟื้นฟู และปรับสภาพชีวิต ด้วยการพัฒนาด้านจิตใจและอาชีพเสริมให้อีกด้วย
ส่วนผู้ต้องขังที่จะเข้ามาอยู่ในเรือนจำโครงสร้างเบา จะต้องเหลือโทษเพียง 6เดือนถึง1ปี และต้องมีความประพฤติดี ซึ่งถือเป็นการให้โอกาสกับผู้ต้องขัง โดยเรือนจำโครงสร้างเบาจะไม่มีรั้วกั้น แต่จะขึงด้วยลวดไฟฟ้า และจะควบคุมแบบไม่เข้มงวดมากเกินไป เพราะผู้ต้องขังทุกคนจะทราบดีว่า เมื่อได้เข้ามาอยู่ในเรือนจำโครงสร้างเบาแล้ว ก็เหมือนกำลังจะได้กลับบ้านซึ่งผู้ต้องขังทุกคนก็พยายามจะไม่กระทำผิดซ้ำ
หากการก่อสร้างเรือนจำโครงสร้างเบาสำเร็จ จะสามารถระบายผู้ต้องขังจากเรือนจำปกติ ได้ถึงปีละ 2หมื่นคน ซึ่งงบประมาณในการสร้างเรือนจำโครงสร้างเบาทั้ง 17 แห่ง จะใช้งบประมาณ ประมาณ 1,400 ล้านบาท เฉลี่ยต่อแห่งประมาณ 50 ล้านบาทซึ่งน้อยกว่าการก่อสร้างเรือนจำปกติถึง 3 เท่า
พนิตา สืบสมุทร ผสข.