การขยายผลจับกุมเครือข่ายค้าอาวุธสงครามผ่านอินเตอร์เน็ต ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับตำรวจกองปราบปรามและทหาร เปิดเผยว่า การจับกุมเครือข่ายค้าอาวุธสงครามผ่านทางเฟซบุ๊ครายใหญ่ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายรัฐกฤษฎิ์ สิรวิชญ์ชัยกร เครือข่ายค้าอาวุธจังหวัดเชียงราย และนายสุวินัย งามสุข เครือข่ายค้าอาวุธจังหวัดลำปาง พร้อมพวกรวม 5 คน โดยนายรัฐกฤษฎิ์ สามารถจับกุมได้ที่จังหวัดเชียงรายและนานสุวินัย จับกุมได้ที่จังหวัดลำปาง ในข้อหาร่วมกันค้าเครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พร้อมยึดของกลาง เป็นอาวุธปืน ทั้งปืนสั้นและปืนยาวหลายกระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนอาก้าในกล่องไปรษณีย์ 10 นัด / หัวกระสุนชนิดเอ็ม79 98 ลูก / ดาบยาว / และยาบ้าอีกประมาณ 133 เม็ด / เงินสดอีกกว่า 1 แสน 2 หมื่นบาท /
จากการสอบสวนนายรัฐกฤษฎิ์ อ้างว่า มีเพื่อนนำเงินมาให้ตัวเองสั่งซื้ออาวุธโดยนำมาเก็บไว้ที่สนามยิงปืน เพื่อรอให้เพื่อนมารับ และไม่ทราบว่าเพื่อนจะนำอาวุธเหล่านี้ไปทำอะไร ส่วนนายสุวินัย อ้างว่า นายพงษ์ดนัยที่หลบหนีไป เป็นคนสั่งซื้ออาวุธ ส่วนตัวเองมีหน้าที่เพียงรอรับของ และนำไปขายต่อ โดยทำมาแล้ว 3-4 ครั้ง ได้รับค่าจ้างครั้งละ 5,000-10,000 บาท และจะใช้วิธีห่ออาวุธด้วยกระดาษฟอยล์และกระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อไม่ให้ไปรษณีย์เอ็กซเรย์พบ ส่วนเงินที่ได้ก็นำไปซื้อยาบ้ามาเสพ
ด้านพลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุว่า จากการสืบสวนพบว่าอาวุธสงครามของเครือข่ายนี้ถูกส่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้านด้วย ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบทางการเมืองในไทยหรือไม่ ยังไม่สามารถชี้ชัดได้และอยู่ระหว่างการขยายผล พร้อมจะประสานไปรษณีย์ไทยและบริษัทขนส่งเอกชนเพิ่มมาตรการการตรวจสอบพัสดุให้เข้มงวดมากขึ้น
การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลมาจากการจับกุมเยาวชนชาย 2 คน อายุ 17 และ 18 ปี ที่ลักลอบค้าอาวุธสงครามผ่านทางเฟสบุ๊ก ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อกลางเดือนธันวาคม โดยเยาวชนทั้งสองคนให้การซัดทอดว่าได้ขายอาวุธสงครามให้กับเครือข่ายของนายรัฐกฤษฎิ์ และ นายสุวินัย โดยส่งอาวุธผ่านทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 5 คน และหลบหนีไปได้ 1 คน คือนายพงษ์ดนัย ตั๊ะเวที หนึ่งในเครือข่ายของนายสุวินัย