*สำนักงบฯเตรียมงบฯกลางกระตุ้นศก./คมนาคม เปิดตัวอย่างรถเมล์ไฟฟ้าต้นแบบ/เตรียมจัดระเบียบปากคลองตลาด*

+++อาการอาพาธหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี  ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รายงานอาการอาพาธ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม โดยระบุว่า หลวงพ่อเข้ารับการรักษาอาการอาพาธในโรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2558 ด้วยอาการเหนื่อยจากโรคปอดอักเสบ ขณะนี้อาการอาพาธและการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ระดับชีพจร และความดันโลหิตยังคงเดิม ไม่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คณะแพทย์ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและเริ่มให้อาหารทางหลอดเลือด จากผลการตรวจเลือดพบว่าระดับเกล็ดเลือดต่ำ กว่าปกติ จึงได้ให้เกล็ดเลือดทดแทน ขณะนี้เกล็ดเลือดอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว คณะแพทย์ได้ถวายการดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คณะแพทย์จะแจ้งให้ทราบ ต่อไป

+++ความคืบหน้าเหตุลักทรัพย์บ้านเลขที่ 45 ซอยทองหล่อ 25 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ของ น.ส.อังคณา เจียรวนนท์ อายุ 68 ปี ญาตินายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ทรัพย์สินไปกว่า 10 ล้านบาท พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายลักทรัพย์ตู้เซฟบนชั้น 2 ของบ้านไป พบพิรุธคนร้ายหลายจุด รวมทั้งลายนิ้วมือ ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) รวบรวมไปตรวจสอบแล้ว สำหรับการตั้งประเด็นการก่อเหตุดังกล่าวนั้นยังเป็นเพียงการลักทรัพย์ทั่วไป ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะเหตุในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง มีทั้งจับได้และจับไม่ได้ ยืนยันว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการแบ่งมรดกไม่ลงตัวตามที่มีกระแสข่าว และยังไม่อยากให้ตัดสินไปก่อนว่าผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลในบ้านหรือไม่ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน      ส่วนที่ในตัวบ้านไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่คิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน เนื่องจากยังมีกล้องวงจรปิดภายนอก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ดูแลบ้านทั้งแม่บ้านและคนขับรถไปตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับผลลายนิ้วมือแฝงที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมผลไว้ตรงจุดเกิดเหตุ

+++กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม แถลงสรุปยอดคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ช่วงเทศกาลปีใหม่ 7 วันอันตราย ภายใต้โครงการรณรงค์ ดื่มแล้วขับ ขับขี่โดยประมาท ถูกจับคุมประพฤติที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการขับขี่ยานพาหนะ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559  

+++กระตุ้นเศรษฐกิจไทย นายสมศักดิ์  โชติรัตนะศิริ  ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณ เตรียมจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมหรือ งบประมาณกลางปีวงเงิน 70,000 -1 แสนล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยรายได้ ที่จะนำมาจัดทำเป็นงบประมาณเพิ่มเติม หรืองบกลางปีจะมาจากรายได้จากการประมูล 4จี ที่รายได้จะเข้าเงินคงคลัง ในปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 70,000 ล้านบาท ตามแนวคิดของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะเริ่มลงได้ราวไตรมาส 3 เป็นต้นไป แต่ไตรมาส 1 และ 2 นั้น เป็นช่วงที่คิดว่า การลงทุนในโครงการขนาดเล็ก ต้องลงได้อย่างเต็มที่ ทั้งการลงทุนในระดับตำบล และโครงการลงทุนของส่วนราชการวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่การเบิกจ่ายยังทำได้ไม่เต็มที่ แถมยังมีปัญหาเรื่องภัยแล้งเข้ามากระทบ ก็เลยคิดว่า จะต้องมีงบกลางปีเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้

+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ว่าขยายตัวได้ตามคาดที่ร้อยละ 3.8 คาดหวังว่า การตั้งงบกลางปี จะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปี และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จะเริ่มได้ราวไตรมาส 3 เป็นต้นไป จะช่วยให้เศรษฐกิจโตได้ตามเป้าหมาย 

+++นายสมคิด กล่าวถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานว่า รถไฟไทย-จีน ต้องเกิดขึ้นในปี 2559 อย่างแน่นอน

+++นายออมสิน  ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  ชมตัวอย่างรถเมล์ไฟฟ้าต้นแบบ เวลา 11.00 น. บริเวณหน้ากระทรวงคมนาคม

++รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานใหญ่ของปี 2559 คือการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ หรือซุปเปอร์โฮลดิ้ง และงานด้านไอซีที กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เตรียมเสนอติดตั้งอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ 1 หมื่นจุดทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นหัวใจของอี-คอมเมิร์ซ ยกระดับดิจิตอลชุมชน นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมธุรกิจเริ่มต้นใหม่ (สตาร์ตอัพ) โดยหารือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้สนับสนุนคนรุ่นใหม่ในเรื่องนี้

+++เช้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประชุมคณะกรรมการส่งเสริมรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) (เฉพาะกิจ) ครั้งที่ 4/2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล

 +++หอการค้าไทย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ แถลงเรื่อง ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรุดลงหนักในช่วงท้ายของการซื้อขาย จากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มพลังงานและรายงานการประชุมเฟด(minutes) ที่เพิ่มเติมความกังวลแก่นักลงทุนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ  ดาวโจนส์ ลดลง 252.15 จุด  ปิดที่ 16.906.51 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 26.45 จุด  ปิดที่ 1,990.26 จุด แนสแดค ลดลง 55.67 จุด  ปิดที่ 4,835.76 จุด หุ้นวอลล์สตรีทเริ่มต้นปีด้วยความหวาดผวามาตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ จากข้อมูลที่อ่อนแอของจีนที่ฉุดให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดลง และเมื่อคืน ความกังวลของนักลงทุนยังถูกซ้ำเติมจากถ้อยแถลงของเกาหลีเหนือที่อ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจน

+++ นอกจากนี้ยังมีความวิตกต่อรายงาน(Minutes) การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เปิดเผยให้เห็นว่า คณะกรรมการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่แล้ว หลังเกือบทั้งหมดเชื่อมั่นว่าตัวเลขเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้น ทว่าบางส่วนส่งเสียงกังวลว่าอัตราเงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับต่ำที่เป็นอันตรายต่อไป ประกอบกับธนาคารโลก( เวิลด์แบงค์)  ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2016 ลงจากประมาณการณ์ก่อนหน้านี้  โดยอ้างถึงการเติบโตที่น่าผิดหวังในตลาดเกิดใหม่หลักๆ อย่างเช่นจีนและบราซิล โดยปรับลดประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2016 ลงอีกถึงร้อยละ 0.4 เหลือเพียงร้อยละ 2.9  

+++หุ้นไทยปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1,260.04 จุด เพิ่มขึ้น 6.70 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,260.92 ล้านบาท นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัว หลังรัฐบาลจีน จะเข้ามาช่วยชะลอความผันผวน และพยุงตลาดหุ้นในจีน ทำให้มีแรงซื้อเชิงพื้นฐานเข้ามา

+++ความกังวลทั้งราคาน้ำมัน เศรษฐกิจโลกและด้านภูมิรัฐศาสตร์เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทำให้ราคาทองคำ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้  ปิดบวกแรง ทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 13.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,091.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงสุดในรอบ 2 เดือน

+++ก่อนถึงวันเด็ก 9 ม.ค. ช่วงบ่ายนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนำคณะเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีและรับฟังโอวาท ที่ทำเนียบรัฐบาล

+++หน่วยงานต่างๆ ภายในทำเนียบรัฐบาล เช่น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เริ่มทยอยจัดเตรียมสถานที่ เวทีการแสดง ของที่ระลึก สำหรับต้อนรับเด็กและเยาวชน ที่จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมวันเด็กภายในทำเนียบรัฐบาล สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้นำ ส.ค.ส. ที่เยาวชนและเด็ก ๆ ทั่วประเทศส่งอวยพรถึงนายกรัฐมนตรี มาจัดบอร์ดแสดงที่โถงชั้น 1 ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ชม โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เด็กๆ ต่างอวยพรให้นายกฯ มีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี ไม่เครียด และเป็นกำลังใจให้แก้ปัญหาภายในประเทศได้สำเร็จ ขณะที่บางคนขอให้นายกฯ สงสารชาวบ้านและช่วยแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เป็นต้น

+++ในปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า ให้เด็กๆ ได้เยี่ยมชมและนั่งเก้าอี้ทำงานของนายกรัฐมนตรีด้วย พร้อมพบปะและให้โอวาทแก่ตัวแทนเยาวชนที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ เยาวชนที่มีความกตัญญู และเด็กด้อยโอกาส จำนวน 22 คน และชมการแสดงของเด็กๆ ในวันดังกล่าวด้วย

+++พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า พื้นที่แรกที่ กทม.จะจัดระเบียบทางเท้าและผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในปี 2559 นี้คือบริเวณปากคลองตลาดซึ่งเป็นจุดการค้าดอกไม้สดขนาดใหญ่ มีผู้ค้าจำนวนมากตั้งวางแผงค้าบนทางเท้าและผิวจราจร โดยเฉพาะช่วงเวลากลางวัน ส่งผลต่อปัญหาการจราจรอย่างหนัก กทม.วางแนวทางจัดระเบียบ โดยจะห้ามผู้ค้าตั้งวางแผงค้าบนทางเท้าและผิวจราจรโดยเด็ดขาดตลอดทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ผู้ค้าต้องย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งจากการสำรวจมีผู้ค้าทั้งสิ้น 1,083 ราย กทม.ประสานตลาดในพื้นที่ปากคลองตลาดเพื่อรองรับกลุ่มผู้ค้าคือตลาดยอดพิมานและตลาดส่งเสริมการเกษตร ซึ่งมีพื้นที่รองรับผู้ค้าได้ทั้งหมด โดยแต่ละแห่งคิดค่าเช่าพื้นที่ในอัตราถูก ทั้งนี้ กทม.จะเชิญผู้ค้ามาร่วมประชุมชี้แจงและกำหนดวันเข้าจัดระเบียบพื้นที่ในกลางเดือนมกราคมนี้ จากนั้น กทม.จะจัดระเบียบสะพานพุทธและย่านบางลำพู