รอยเตอร์รายงานอ้างนายไมเคิล ฮิวสัน หัวหน้านักยุทธศาสตร์บริษัทซีเอ็มซี มาร์เกตส์ว่า ราคาน้ำมันดิบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีในวันนี้ หลังปัญหาขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านอาจจะส่งผลให้ไม่มีการประสานความร่วมมือกันเพื่อลดกำลังการผลิตลงให้มากขึ้นระหว่าง 2 ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของกลุ่มโอเปก ทั้งนี้เพื่อช่วยประคองราคาให้สูงขึ้น ที่ผ่านมาปัญหาขัดแย้งที่สืบเนื่องจากซาอุดิอาระเบียสั่งประหารผู้นำชาวมุสลิมชีอะห์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาฉุดราคาน้ำมันดิบให้ร่วงเกือบร้อยละ 8 ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา
นอกจากนี้ หลักฐานที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีนและอินเดียสร้างความหวั่นวิตกว่าแม้ว่าจะมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นในส่วนอื่นๆของโลกก็อาจจะไม่มากพอที่จะรองรับปริมาณน้ำมันดิบที่ล้นตลาดโลกในขณะนี้ สำหรับราคาน้ำมันดิบตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ตลาดกรุงลอนดอน อังกฤษ อยู่ที่ 35.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 11.20 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ร่วง $1.35 ดอลลาร์ นับว่าต่ำสุดนับแต่ต้นเดือนกรกฏาคม 2547 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดสหรัฐฯร่วง 88 เซนต์อยู่ที่ 35.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังร่วงลง 79 เซนต์เมื่อวานนี้
ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบร่วงจาก 115 ดอลลาร์เมื่อเดือนมิถุนายน 2556 หลังสหรัฐฯผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งหินดินดานป้อนเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น นอกจากนั้น ราคาน้ำมันที่ร่วงลงส่งผลให้ผู้ผลิตบางรายรวมถึงรัสเซียผลิตน้ำมันในปริมาณที่สูงขึ้นเพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงและรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้/20.42น.