*จีนชี้ซาอุฯ-อิหร่านขัดแย้ง กระทบปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลาง*

ซินหัวของทางการจีนระบุในบททัศนะวิจารณ์ว่า หลังเข้าสู่ปีใหม่ได้เพียง 2-3 วัน สถานการณ์ในตะวันออกกลางพลิกผันกลับมาแย่หนักสุดอีกครั้ง หลังซาอุดิอาระเบียประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ความตึงเครียดที่สูงขึ้นระหว่าง 2 มหาอำนาจชาติมุสลิมในตะวันออกกลางย่อมจะส่งผลเสียต่อความมั่นคงในระดับภูมิภาค และหากไม่ควบคุมให้ดี อาจจะกระทบต่อบรรยากาศการสร้างความร่วมมือเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคและทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ ซาอุดิอาระเบียประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ถึง 1 วันหลังกลุ่มผู้ประท้วงในกรุงเตหะราน บุกสถานทูตซาอุดิอาระเบีย เพื่อประท้วงกรณีซาอุดิอาระเบียสั่งประหารชีวิตผู้นำนิกายมุสลิมชีอะห์คนสำคัญรายหนึ่ง การตัดสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 มหาอำนาจมุสลิมครั้งนี้จะกระทบต่อสันติภาพและความมั่นคงระดับภูมิภาค และส่งผลกระทบต่อภูมิรัฐศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญ จะส่งผลให้โอกาสความสำเร็จทางการทูตในการแก้ไขปัญหาขัดแย้งในซีเรียและเยเมนยิ่งเลือนรางมากยิ่งขึ้นด้วย

ในช่วง 2-3 ปีมานี้ เกิดเหตุความวุ่นวายและไร้กฏเกณฑ์ขึ้นในบางประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มก่อการร้าย เช่น กลุ่มรัฐอิสลามและกลุ่มอัลกออิดะห์ ในขณะเดียวกัน หลายประเทศในตะวันออกกลางได้เริ่มสร้างบรรยากาศความร่วมมือกันเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย แต่สัมพันธ์ที่แย่ลงระหว่างอิหร่านกับซาอุดิอาระเบียอาจจะทำให้เกิดเหตุความไม่สงบในภูมิภาคนี้หนักยิ่งขึ้น กระทบความร่วมมือกันในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งหากขยายวงกว้างออกไปมากกว่านี้อาจจะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของทั้งภูมิภาคและทั่วโลก/15.52 น.