คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุบุกรุก และวางเพลิงสถานทูตซาอุดีอาระเบีย ณ กรุงเตหะราน และสถานกงสุลที่เมืองมาชาด แต่ในแถลงการณ์นี้ไม่ได้อ้างอิงไปถึงการที่ซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตนักการศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ ซึ่งทำให้ชาวอิหร่านที่เป็นชีอะห์ไม่พอใจ
โดยเมื่อวันอาทิตย์ ซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน รวมถึงให้ระงับการบินระหว่างประเทศ และรองนายกรัฐมนตรีตุรกีเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายใช้ความเยือกเย็นในการแก้ไขปัญหาเพราะเวลานี้ตะวันออกกลางก็เหมือนกับตกอยู่ในถังระเบิดอยู่แล้ว
มติของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ในครั้งนี้เป็นไปตามคำร้องของทางการซาอุดีอาระเบีย และเรียกร้องให้ทางการอิหร่านให้ความคุ้มครองนักการทูตและผู้แทนกงสุลด้วยการแสดงความเคารพในการทำหน้าที่ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมหารือกันเพื่อลดความตึงเครียดในภูมิภาค ทั้งนี้เอกอัครราชทูตผู้แทนซาอุดีอาระเบีย ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศสามารถคลี่คลายลงได้ หากทางการอิหร่านจะยุติการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น รวมถึงในประเทศของตนเอง
..