วันสุดท้าย ของช่วง7วันอันตรายปีใหม่ 2559 นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานสรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 เปิดเผยว่า สถิติวันสุดท้าย (4ม.ค.59) ของการรณรงค์ สุขกาย สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย รับปีใหม่ 2559 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุ 287 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 40 ราย ผู้บาดเจ็บ 289 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 17 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี 5 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 17 คน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 20.14 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 14.37 เมาสุรา ร้อยละ 13.19 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.22 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 62.02 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 47.04 ถนนในอบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 27.87 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. หรือช่วงเวลาโพล้เพล้ ร้อยละ 29.27 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยทำงาน หรือช่วงอายุประมาณ 20-49 ปี ร้อยละ 45.88
สรุปอุบัติเหตุสะสม 7 วัน (29 ธ.ค.58-4ม.ค.59) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,379 ครั้ง เสียชีวิตรวม 380 ราย บาดเจ็บ 3,505 คน สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ เมาสุรา ร้อยละ 24.03 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 17.28 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.51 รถปิคอัพ ร้อยละ 7.43 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 63.89 ถนนทางหลวง ร้อยละ 36.02 ถนนในอบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.42 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ 16.01-20.00 น. ร้อยละ 28.09 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน ร้อยละ 52.23 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือตายเป็นศูนย์ มี4 จังหวัด ได้แต่ ตรัง แพร่ ระนอง และสุโขทัย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 139 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสูดได้ นครราชสีมา 15 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด คือ เชียงใหม่ 140 คน
*ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 มีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 382 ครั้ง บาดเจ็บเพิ่มขึ้น 388 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 39 คน ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการเมาแล้วขับ โดยผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มที่มีการเสียชีวิตสูงที่สุดถึงร้อยละ 68.82 ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ร้อยละ 57 *
นายกฤษฎา ยังได้เปิดเผยอีกว่า วันนี้เป็นเพียงการสรุปยอด ในช่วง 7 วันอันตรายและไม่ได้เป็นการปิดศูนย์ โดยจะเพิ่มมาตรการทางสังคมและชุมชน เพื่อสร้างความปลอดภัยทางท้องถนนอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่จะเน้นระยะยาว โดยจะให้ความสำคัญกับการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมาย และ นำเทคโนโลยีมาใช้ในการยกระดับยานพาหนะให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
..