รัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า เหตุแผ่นดินไหวระดับ 6.7 เมื่อเช้ามืดของวันจันทร์ มีจุดศูนย์กลางห่างจากเมืองอิมพาลราว 29 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในอินเดีย 5 ศพ และที่บังกลาเทศ 3 ศพส่วนที่เมียนมาร์ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเนื่องจากในเวลาเดียวกันนี้พื้นที่ชายแดนของเมียนมาร์ที่ติดต่อกับอินเดียกำลังเผชิญกับมรสุม และเหตุดินถล่มทำให้การติดต่อสื่อสารถูกตัดขาด
สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินเดีย เปิดเผยว่า อาคารหลายหลังในเมืองอิมพาล ที่เป็นเมืองเอกของรัฐมณีปุระ ที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวได้รับความเสียหายรุนแรงและอีกหลายหลังมีรอยร้าว พื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียตั้งอยู่บนเขตรอยเลื่อนแผ่นดินไหว โดยเคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.6 เมื่อปี 2493 ที่มีศูนย์กลางในทิเบต แต่แรงสะเทือนทำให้อาคารบ้านเรือนหลายสิบแห่งในแคว้นอัสสัมของอินเดียทรุดตัวเสียหาย มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ศพ
นายอับเดล อัลจูเบอีร์ รัฐมนตรีการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียแถลงว่า ซาอุดีอาระเบีย ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านและขอให้คณะทูตอิหร่านเดินทางออกจากราชอาณาจักรภายใน 48 ชั่วโมง เนื่องจากทางการซาอุดีอาระเบียขอให้อิหร่านรับประกันความปลอดภัยสถานทูตในอิหร่าน แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ และไม่สามารถให้ความคุ้มครองได้ จนทำให้เกิดเหตุผู้ชุมนุมบุกรุก และวางเพลิงสถานทูตและสถานกงสุลของซาอุดีอาระเบียในอิหร่าน ทั้งกล่าวหาว่า อิหร่านพยายามบั่นทอนเสถียรภาพภูมิภาค
ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศเกิดจากการที่ซาอุดีอาระเบีย ประหารชีวิตเชค นิมร์ อัล นิมร์ นักการศาสนามุสลิมชีอะห์ในซาอุดีอาระเบีย ร่วมด้วยนักโทษในคดีก่อการร้ายอีก 46 คน
ด้านอยาโตลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่านประกาศล้างแค้นซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทำให้นานาชาติวิตกว่าจะทำให้ความตึงเครียดระหว่างนิกายจะบานปลาย
ต่อมาทางการบาห์เรน และซูดานก็ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านและมีคำสั่งให้นักการทูตอิหร่านออกจากบาห์เรนภายในเวลา 48 ชั่วโมงเช่นกัน โดยบาห์เรนซึ่งอยู่ในอ่าวอาหรับ อยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิมสุหนี่และเป็นมิตรประเทศที่มีความใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบีย
อินเดียระดมตำรวจ ทหาร และกองกำลังพิทักษ์ความมั่นคงค้นหากลุ่มผู้โจมตีฐานทัพอากาศอินเดียในเมืองปาตันค็อต ติดพรมแดนปากีสถาน ทำให้เกิดการยิงปะทะกันต่อเนื่องตั้งแต่ 3 มกราคม โดยผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญ 4 ศพหลบหนีไปได้ 2 คน
สำนักงานอัยการเนเธอร์แลนด์ รับทราบรายงานสอบสวนของกลุ่มนักข่าวพลเมือง เบลลิงแคท ในอังกฤษ ที่อ้างว่ารู้ตัวทหารรัสเซียที่อาจพัวพันกับการยิงเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ตกในพื้นที่สู้รบทางตะวันออกของยูเครนเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 298 คน โดยอัยการเนเธอร์แลนด์สรุปผลการสอบสวนคดีนี้ ว่าเครื่องบินลำนี้ ถูกยิงด้วยขีปนาวุธพื้นสู่อากาศบั๊ค และกำลังมีการสอบสวนทางอาญาเพื่อหาผู้รับผิดชอบ
ทั้งนี้เบลลิงแคท ซึ่งขึ้นชื่อว่าเชี่ยวชาญสืบค้นข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์และแหล่งข้อมูลเปิดอื่นๆระบุว่าเครื่องยิงขีปนาวุธบั๊ค ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่กลุ่มกบฏยูเครนควบคุมอยู่เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม มาจากขบวนรถทหารจากกองพลน้อยต่อต้านอากาศยานที่ 53 ของรัสเซีย หน่วยทหารนี้มีที่ตั้งในเมืองเคิร์สก์ แต่ถูกส่งไปใกล้ชายแดนยูเครน แต่เมื่อจับภาพเครื่องยิงขีปนาวุธอีกครั่งในเวลาต่อมา ปรากฏว่ามีขีปนาวุธอย่างน้อย 1 ลูกหายไป
รัฐเทกซัส ในสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายให้ผู้ที่มีใบอนุญาตถือครองปืน แสดงปืนที่มีซองปืนหุ้มในที่สาธารณะได้ ซึ่งนายซี เจ กริสแฮม ประธานกลุ่มโอเพน แคร์รี เทกซัส ผู้ผลักดันกฎหมายนี้เผยว่า เป็นการคืนสิทธิ์ในการครอบครองและแสดงปืนให้กับชาวเทกซัสอีกครั้งในรอบ 150 ปี ขณะที่นายดิเอโก เบอร์นอล สมาชิกสภารัฐเทกซัส ที่ลงคะแนนคัดค้าน ให้ความเห็นว่า กฎหมายนี้เป็นความผิดพลาด เพราะไม่เห็นว่า การเปิดโอกาศให้ใช้ปืนในชีวิตประจำวัน จะทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น แถลงว่า ญี่ปุ่นต้องการหารือร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียเพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศสามารถลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ เพราะหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งสองประเทศก็มีข้อพิพาทหมู่เกาะคูริล ซึ่งต่อมาสหภาพโซเวียตยึดไป 4 เกาะแต่ยังไม่เคยมีการลงนามใดๆ และหากไม่มีการจัดประชุมหารือกัน ปัญหาข้อพิพาทก็ไม่สามารถแก้ไขได้
นายชาร์ลส์ โฮเซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ แถลงว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังพิจารณายื่นหนังสือประท้วงกรณีที่จีนทดสอบการบินบนเกาะที่สร้างขึ้นใหม่บริเวณแนวปะการังแฟร์รี ครอส หมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีหลายประเทศโดยรอบอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ ซึ่งเป็นท่าทีเช่นเดียวกับรัฐบาลเวียดนามก่อนหน้านี้
นางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี)เปิดเผยในวันชาติเมียนมาร์ว่า กระบวนการสันติภาพจะมีความสำคัญอันดับแรกสำหรับรัฐบาลใหม่ที่จะเข้าบริหารประเทศในเดือนมีนาคม โดยในช่วงสิบปีมานี้มีความพยายามทำข้อตกลงสันติภาพกับชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม เพื่อให้มีสิทธิในการปกครองตนเองมากขึ้น จนถึงเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วมการลงนามหยุดยิง แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
นายปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลีย แถลงขอโทษ นางซาแมนธา ไมเดน บรรณาธิการข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์นิวส์คอร์ปส์ซันเดย์ สื่อท้องถิ่นของออสเตรเลีย โดยเรียกเธอว่า แม่มดวิกลจริต ทั้งนี้ ดัตตันจะส่งข้อความไปหาเพื่อนอดีตรัฐมนตรีที่นางไมเดนเขียนบทความวิจารณ์ไปก่อนหน้านี้ แต่เขากลับส่งข้อความผิดพลาดไปให้กับนางไมเดนเสียเอง ขณะที่ไมเดนกล่าวว่ายินดีมากที่จะรับคำขอโทษจากนายดัตตัน พร้อมยืนยันว่าข้อความจากดัตตันเขียนว่าตนว่า "แม่มดวิกลจริต" จริง ซึ่งตนก็ยอมรับว่าเป็นอย่างนั้นจริง ทั้งนี้ ดัตตันได้ส่งข้อความระบุว่า "เพื่อน เธอเป็นเหมือนกับแม่มดวิกลจริต" และไมเดนก็ตอบข้อความไปว่า "เพื่อน คุณเพิ่งส่งข้อความให้กับแม่มดวิกลจริต"
ทางการสิงคโปร์เปิดเผยข้อมูลว่า เศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 2.1 เมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำสุด นับตั้งแต่การถดถอยทางเศรษฐกิจเมื่อปี 2552 ขณะที่ตัวเลขของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลดลงจากปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.9 เนื่องจาก ความต้องการของโลกลดลง ทำให้การส่งออกของเอเชียน้อยลงตามไปด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 178.84 จุด หรือร้อยละ 1.02 ปิดที่ 17,425.03 จุด ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปรับลง 19.42 จุด หรือร้อยละ 0.94 ปิดที่ 2,043.94 จุด และดัชนี แนสแดค ลดลง 58.44 จุด หรือร้อยละ 1.15 ปิดที่ 5,007.41 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 37.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ ปิดที่ 37.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล