ปัญหาโครงการประดับไฟตกแต่งที่ลานคนเมือง จำนวน 5 ล้านดวง ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 58 – 31 ม.ค. 59 มูลค่า 39.5 ล้านบาท ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากถึงการฮั้วประมูลโครงการ และมีราคาแพงเกินจริง ไม่คุ้มค่า นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการฮั้วประมูลจะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษ แต่การประมูลในครั้งนี้เป็นการประมูลตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถฮั้วประมูลได้ แม้ว่าบริษัทที่รับเหมาดังกล่าว เป็นบริษัทที่เคยทำทัวร์มาก่อน ก็ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากบริษัทนี้ชนะการประมูล ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบ จะไปล็อคไม่ได้ว่าบริษัทที่จะต้องประมูล ต้องเป็นบริษัทที่จัดไฟเท่านั้น ถ้าทำธุรกิจอื่นมาก่อน ไม่สามารถประมูลได้ ก็ไม่ถูกต้อง และงบประมาณจำนวน 39.5 ล้านบาท นี้ ไม่ใช่งบที่จัดจ้างบริษัททำไฟอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการจ้างบริษัทดูแลรักษาความปลอดภัย พนักงานทำความสะอาด ค่าซ่อมบำรุงรักษาตลอด 1 เดือนด้วย
รองผู้ว่ากทม. ยืนยันอีกครั้งว่า งบประมาณที่นำมาใช้ในโครงการดังกล่าวไม่ได้นำงบฉุกเฉินมาใช้ แต่เป็นงบประมาณตามพ.ร.บ. 2559 ที่ทางกรุงเทพมหานครได้รับมาจากรัฐบาล จำนวน 300 ล้าน ซึ่งใช้ในส่วนของงบเร่งด่วน โดยงบเร่งด่วนนี้จะใช้ได้ 4 กรณีด้วยกัน คือ ใช้เพื่อภารกิจเร่งด่วน ใช้ตามคำพิพากษาของศาล ใช้ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และใช้ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ส่วนกระแสข่าวที่มีผู้โจมตีว่ากรุงเทพมหานครสามารถจัดจ้างโครงการดังกล่าวได้ แต่ไม่สามารถนำเงินไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุตกท่อได้นั้น นายอมร กล่าวว่า จริงๆ แล้วกรุงเทพมหานครดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานของกรุงเทพมหานครมาตลอด ซึ่งงบประมาณนี้สามารถเบิกได้จากงบเร่งด่วนเช่นเดียวกับการจัดทำโครงการประดับไฟตกแต่ง แต่อยู่ในส่วนของงบที่ใช้ตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งศาลปกครองก็ได้มีคำสั่งให้กรุงเทพมหานครดำเนินการในส่วนนี้ โดยให้ผู้อำนวยการเขตพิจารณาเป็นกรณีไป โดยกรุงเทพมหานครก็ได้ชดใช้ให้ประชาชนไปแล้วหลายเรื่อง เช่นเหตุการณ์ไฟไหม้ซานติก้าผับ เหตุการณ์โป๊ะเรือล่ม
สำหรับ การเปิดให้ประชาชนเข้าชมไฟมา 5 วัน พบว่ามีประชาชนเข้าชมกว่า 1 ล้านคน สามารถกระจายรายได้สู่พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนโดยรอบลานคนเมือง กว่า 5.5 ล้านบาท ซึ่งเกินเป้าที่กรุงเทพมหานครคาดการณ์ไว้ที่ 4 แสนคน โครงการนี้เป็นนโยบายที่ผู้ว่าราการกรุงเทพมหานคร จัดขึ้นเพื่อต้องการให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว มีการประชาสัมพันธ์ ถ่ายภาพ อัพเดทในโซเชียล เพื่อให้ต่างชาติได้เข้ามาเที่ยวในกรุงเทพมหานครให้มากขึ้น แม้ว่ากระแสที่ออกสู่โซเชียล จะเป็นไปในแง่ลบ แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่คนต่างชาติ ไม่รู้ภาษาไทย