ปธน.มัลดีฟส์ ลงนามความร่วมมือกับฝ่ายไทยหลายฉบับในการเดินทางเยือน

04 มกราคม 2559, 11:46น.


ในการที่นายอับดุลลา ยามีน อับดุล กายูม ประธานาธิบดีสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าวันนี้  


พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้นำทั้ง 2 มีความยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2ประเทศราบรื่นมาตลอดกว่า 36 ปี และที่ผ่านมาไทยและมัลดีฟส์มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตร่วมกัน โดยประธานาธิบดีกล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสนี้ด้วย  


ทั้งนี้ พล.ต.วีรชน กล่าวสรุปว่า ไทยและมัลดีฟส์เห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน ซึ่งได้กล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีไทยไปเยือนมัลดีฟส์ในโอกาสแรกที่เหมาะสม นอกจากนี้ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องว่า จะพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำถึงเจตนารมณ์ของไทยที่จะผลักดันความร่วมมือต่าง ๆ ให้คืบหน้าต่อไป  


ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์การเมืองไทยว่า ขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกรอบระยะเวลาโรดแมป เพื่อนำไปสู่การสร้างระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ให้มีเสถียรภาพ ซึ่งมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคม 


ส่วนด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบัน มีกลุ่มนักธุรกิจไทยหลายรายเข้าไปลงทุนในมัลดีฟส์ โดยเฉพาะในธุรกิจภาคบริการ และการก่อสร้าง โดยรัฐบาลไทยมุ่งจะส่งเสริมนักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในมัลดีฟส์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของมัลดีฟส์ในหลายด้าน และหวังว่า ประธานาธิบดีมัลดีฟส์ จะให้การสนับสนุนภาคเอกชนไทยที่ประกอบธุรกิจในมัลดีฟส์ 


ผู้นำทั้ง 2 ยังเห็นพ้องในการจัดกลุ่ม business matching เพื่อช่วยหาลู่ทางการลงทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากกลุ่มประเทศในเอเชียใต้สามารถรวมกันเป็นศูนย์กระจายสินค้าได้ จะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า และปริมาณการค้าระหว่างกันจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งทั้งสองประเทศหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น โดยไทยกับมัลดีฟส์สามารถขยายความร่วมมือด้านประมง และอุตสาหกรรมแปรรูปด้านการประมงระหว่างกันได้ เนื่องจากมัลดีฟส์เป็นแหล่งนำเข้าปลาทูน่าที่สำคัญของไทย รวมถึงด้านการท่องเที่ยวที่ถือเป็นจุดแข็งของทั้งสองประเทศ ซึ่งผู้นำทั้งสองเห็นพ้องให้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และจะส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้นได้อีก โดยการเพิ่มเที่ยวบินตรง


ในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ไทยพร้อมสนับสนุนตามแผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระยะ 3 ปี (ปี พ.ศ. 2558-2560) ซึ่งนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของมัลดีฟส์ และหากมัลดีฟส์ประสงค์จะรับการสนับสนุนความร่วมมือในด้านอื่น ๆ สามารถแสดงความประสงค์ผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ หรือกระทรวงการต่างประเทศ


 ด้านประธานาธิบดีมัลดีฟส์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศอย่างรอบด้าน เห็นควรให้มีการจัดประชุมร่วมไทย-มัลดีฟส์ เพื่อพัฒนาความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และชื่นชมไทยที่ให้การช่วยเหลือมัลดีฟส์ในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์


...


 


ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด
ข่าวทั้งหมด

X