ตร.นครบาลแถลงผลการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุอุกอาจในช่วงปีใหม่หลายคดี

จากเหตุยิงวัยรุ่นเสียชีวิต 2 คน ย่านเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เมื่อกลางดึกวันที่ 23 ธันวาคม 2558  พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยผลจับกุม กลุ่มผู้ต้องหาได้สำเร็จ คือ นายขวัญ รวดเร็ว อายุ 24 ปี ซึ่งร่วมกับพรรคพวก ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อยิง นายทศพล ชูเกตุ อายุ 21 ปี และ นายอนุชา อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการจนเสียชีวิตคาที่ และมีผู้บาดเจ็บ 2 คน ภายในร้านขายของชำไม่มีชื่อ เลขที่ 99 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 14 แยก 26 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกวันที่ 23 ธันวาคม 2558 จากนั้นพนักงานสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน คือ นายขวัญ รวดเร็ว นายสหภาพ ช้างทิม  นายเอกชัย จันทร์สุริยา และนายไพฑูรย์ นุชประเสริฐ ซึ่งขณะนี้จับกุมตัวได้ 3 ราย เหลือเพียงนายไพฑูรย์ ที่หลบหนี 

เบื้องต้นจากการสอบสวน นายขวัญ ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา  นายสหภาพ รับสารภาพว่าร่วมก่อเหตุจริง ขณะที่ นายเอกชัย ให้การภาคเสธ ส่วนสาเหตุที่กลุ่มผู้ต้องหาลงมือ เนื่องจากขัดผลประโยชน์เรื่องยาเสพติด 

นอกจากนี้พลตำรวจโทศานิตย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขม ยังแถลงผลจับกุม นายนิพนธ์ กลิ่นสุวรรณ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 1 คันที่เป็นของผู้เสียชีวิต และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยจับได้ที่บริเวณเพิงพัก ไม่มีเลขที่ ริมคลองบางปลา หมู่ 5 ตำบลบางโทรัด จังหวัดสมุทรสาคร  ภายหลังจากผู้ต้องหาใช้สายไฟรัดคอ นายบุญรัก คุ้มครองป่า อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี  เสียชีวิตในห้องเช่าเลขที่ 32/1 ห้องที่ 1 ชุมชนหรรษามาเจริญ 1 ซอยมาเจริญ 3 แขวงและเขตหนองแขม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ก่อนหลบหนีไปซ่อนตัวที่จังหวัดสมุทรสาคร 

เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาผู้ตายพักอาศัยใกล้กัน โดยก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาดื่มสุรา แล้วไปขอยืมเงินผู้ตาย 60 บาท แต่ผู้ตายไม่ให้จึงลงมือชกต่อย บีบคอ และใช้สายไฟรัดคอจนเสียชีวิต จากนั้นก็นำเงินของผู้ตายไปทั้งหมด รวมถึงรถจักรยานยนต์ของผู้ตายเพื่อใช้หลบหนี แต่ถูกตำรวจจับกุมในที่สุด

ด้านสน.บางนา จับกุมนายเฉลิมวิทย์ จูมศรีสิงห์ อายุ 27 ปี และ นายณัฐพล แย้มเพชร อายุ 23 ปี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 1 คัน และแผ่นป้ายทะเบียน หลังผู้ต้องหาร่วมกันขี่รถจักรยานยนต์กรชากโทรศัพท์มือถือของนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ขณะกำลังเดินที่ซอยสุขุมวิท 3 เมื่อวันที่ 2 มกราคม 

ต่อมาตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงเรียกตรวจสอบพบโทรศัพท์มือถือ 1 ใน 3 เครื่อง มีการลบล้างข้อมูล ตำรวจจึงนำไปกู้ข้อมูล ก่อนพบว่าเป็นของชาวต่างชาติ จึงติดต่อให้เจ้าของมารับคืนไปแล้ว

 

..

ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี