การประหารชีวิตผู้นำชาวชีอะห์ในซาอุฯ สร้างความไม่พอใจแก่ชาวชีอะห์ในหลายประเทศ

ทางการซาอุดีอาระเบียสร้างความโกรธแค้นและนำไปสู่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลตามชุมชนชาวชีอะห์ทั่วภูมิภาคอาหรับ โดยผู้นำชาวชีอะห์ในอิหร่านและผู้นำชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ในซาอุดีอาระเบีย ต่างออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย โดยเว็บไซต์ของอญาตอเลาะห์คามีนี ผู้นำทางจิตวิญญาณของอิหร่านเผยแพร่ภาพการประหารชีวิตเชค นิมร์ อัล-นิเมอร์ ผู้นำชีอะห์ในซาอุดีอาระเบีย พร้อมทั้งเปรียบเปรยว่าเหมือนกับการกระทำของกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส

กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านระบุว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเรียกผู้แทนทูตซาอุดีอาระเบียประจำอิหร่านเข้าพบเพื่อตำหนิรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียก็ได้เรียกทูตอิหร่านประจำซาอุดีอาระเบียเข้าพบเช่นกัน และได้ตำหนิท่าทีของอันแข็งกร้าวอิหร่าน ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า ชาวชีอะห์ในอิหร่านได้รวมตัวกันประท้วงรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย บริเวณด้านหน้าสถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำอิหร่าน ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลาย นำไปสู่การโจมตีสถานทูต ส่วนในพื้นที่ทางตะวันออกของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นย่านของชาวชีอะห์ก็มีรายงานการประท้วงต่อต้านรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเกิดขึ้นหลายจุด นอกจากนั้นยังมีรายงานการประท้วงเกิดขึ้นทั้งในบาห์เรน เยเมน ปากีสถาน และในแคว้นแคชเมียร์ของอินเดีย สภาชาวมุสลิมชีอะห์ในเลบานอนระบุว่า การประหารชีวิตเป็นความผิดพลาดร้ายแรง ขณะที่กองกำลังฮิซบัลเลาะห์ในเลบานอนก็เห็นว่าการประหารชีวิตผู้นำชาวชีอะห์ในซาอุดีอาระเบียเป็นการลอบสังหารผู้นำชาวชีอะห์มากกว่า

นายมอกฏะดา อัล-ซาดร์ ผู้นำชาวชีอะห์ในอิรัก เรียกร้องให้ชาวชีอะห์ออกมาชุมนุมประท้วงอย่างสงบ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ วิตกว่าการประหารชีวิตผู้นำชาวมุสลิมนิกายชีอะห์อาจจะทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างคนต่างนิกายขึ้น ส่วนองค์กรนิรโทษกรรมสากลระบุว่า การประหารชีวิตนักโทษชาวชีอะห์ทั้ง 47 คน แสดงให้เห็นว่าทางการซาอุดีอาระเบียนั้นไม่สนใจต่อหลักสิทธิมนุษยชนและชีวิตของมนุษย์ อีกทั้งยังเห็นว่ากระบวนการไต่สวนคดีชีค นิมร์นั้นไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ชีค นิมร์เป็นผู้สนับสนุนการประท้วงต่อต้านรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเมื่อ พ.ศ. 2554 รวมทั้งยังเป็นผู้ที่คอยเป็นกระบอกเสียงให้แก่ชาวชีอะห์ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยที่มักถูกกดขี่ โดยเขาถูกศาลตัดสินประหารชีวิตในข้อหาก่อการร้าย

**7.50F174**