*รบ.เตือนอย่าโทรป่วน1669/ปี58 ฝากบ้านไว้กับตำรวจเพิ่มขึ้น/สาส์นจากผู้นำเกาหลีเหนือ-ญี่ปุ่น อวยพรปีใหม่*

01 มกราคม 2559, 17:28น.


+++การเดินทางช่วงปีใหม่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตของผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วง 2 วันแรกของ 7 วันอันตรายพบว่า สาเหตุส่วนใหญ่ยังมาจากการเมาสุรา ร้อยละ 20.20 รองลงมาคือ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 16.87 แสดงให้เห็นว่าประชาชนบางส่วนยังไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำของภาครัฐ จำนวนอุบัติเหตุ 1,029 ครั้ง ยอดผู้เสียชีวิตจำนวนไม่น้อย และตัวเลขที่คาดว่าอาจเพิ่มขึ้นอีก ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างจริงจัง เมาหรือง่วงต้องไม่ขับรถ และใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง  สิ่งที่รัฐบาลมีความเป็นห่วงอย่างมากคือ การโทรศัพท์ก่อกวนหรือป่วนสายด่วน 1669 ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเป็นอุปสรรคต่อผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ที่มีการแจ้งเหตุมากกว่าปกติ จึงขอวิงวอนประชาชนไม่ควรโทรเล่น ทั้งนี้หากตรวจพบ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายทันที



+++ด้าน น.พ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ) กล่าวว่า  มีการโทรเข้ามาที่สายด่วน 1669 โดยไม่มีเหตุจำเป็น ในจำนวนนี้มีทั้งการโทรผิด และการตั้งใจโทรเข้ามาป่วน ซึ่งในกรณีที่โทรเข้ามาป่วนถือว่ามีความผิดฐานก่อกวนและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยจะมีการสืบไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่เข้ามาป่วนพร้อมทั้งประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามผู้ที่โทรเข้ามาป่วนเพื่อดำเนินคดี พบค่อนข้างเยอะ ขอร้องว่าอย่าโทรเข้ามาป่วนเพราะทำให้คนที่เดือดร้อนจริง ๆ ไม่สามารถโทรติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ ทำให้ขาดโอกาสการได้รับความช่วยเหลือชีวิตทันที



+++โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.(ปป.) ร่วมกับ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบก. น.1 และ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการ ฝากบ้านไว้กับตำรวจ ในพื้นที่ สน.โคกคราม ซึ่งในปี 2558 มีการฝากบ้านไว้ในโครงการเพิ่มมากขึ้นกว่าปี2557 สำหรับท้องที่ในความรับผิดชอบของสถานีตำรวจโครกคราม มีประชาชนเข้าโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในปีที่แล้วจำนวน 27 หลัง แต่ในปีนี้มีประชาชนเข้าร่วมโครงการนี้เพิ่มอีก 27 หลัง ร่วมเป็น 54 หลัง และถือเป็นสิ่งที่ดี ปีนี้ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ใช้ แอพพลิเคชั่น ไลน์ ในการติดต่อสื่อสารกับเจ้าของบ้านโดยตรง เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ



+++นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2559 ยอดการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือในเครือข่ายดีแทคเติบโตขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบจากยอดการใช้งานช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีสถิติใช้งานสูงสุดในช่วงเวลา 00.00-00.15 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 2559



+++แอพพลิเคชั่นที่ใช้งาน 5 อันดับสูงสุดในช่วงอวยพรปีใหม่ จากข้อมูล ณ วันที่ 1 ม.ค.2559 เวลา 07.00 น. คือ เฟซบุ๊ก (Facebook/Facebook Messenger), ไลน์ (LINE), อินสตาแกรม (Instagram), ทวิตเตอร์ (Twitter), วอสแอพ (WhatsApp) โดยนอกจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือผ่านแอพพลิเคชั่น ยังมีช่องทางอื่นๆ ที่ถูกใช้ในการอวยพร เช่น การส่งภาพมัลติมีเดีย (MMS) ซึ่งมียอดรวม 60,000 ข้อความ และการส่งข้อความสั้น (SMS) ประมาณ 6 ล้านข้อความ โดยมีช่วงการใช้งานหนาแน่นสูงสุด เวลา 23.00-24.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค.2558



 +++สำหรับ 5 จังหวัดที่มียอดการใช้งานดาต้าสูงสุดในช่วงอวยพรคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 2.ชลบุรี 3.สมุทรปราการ 4.นนทบุรี 5.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในแผนที่ดีแทคได้คาดการณ์และเตรียมความพร้อมรองรับการใช้งานของลูกค้า โดยได้จัดเตรียมรถโมบายล์ อุปกรณ์เสริมเพิ่มสัญญาณ สมอลล์เซลล์ การปรับพารามิเตอร์ การเพิ่มช่องสัญญาณต่างๆ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่



+++นายสกลพร หาญชาญเลิศ รองผู้อำนวยการด้านนอนวอยซ์ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปี ผู้บริโภคนิยมอวยพรและส่งความสุขในช่วงคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ เนื่องจากแต่ละแอพพลิเคชั่นมีฟังก์ชั่นน่าสนใจ อาทิ สติกเกอร์ ข้อความเสียง ภาพวิดีโอ เป็นต้น ประกอบกับเครือข่าย 3จี และ 4จี ในปัจจุบันครอบคลุมทั่วประเทศไทย จึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี



+++สถานการณ์ในต่างประเทศ สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานว่า การส่งสาส์นอวยพรประชาชนในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ  นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ระบุว่าเกาหลีเหนือต้องการจะปรับสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ให้ดีขึ้นในเรื่องการรวมประเทศ และพร้อมเจรจากับทุกฝ่ายที่ต้องการเห็นสันติภาพและการรวมประเทศ



+++ผู้นำเกาหลีเหนือเรียกร้องให้เกาหลีใต้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่สองเกาหลีลงนามไว้เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมปีก่อน เพื่อลดความตึงเครียดทางทหาร ระบุว่าเกาหลีใต้ไม่ควรทำการใดๆที่อาจจะกระทบต่อการสร้างบรรยากาศปรองดองกันระหว่างสองเกาหลี  สาส์นอวยพรวันขึ้นปีใหม่ของผู้นำเกาหลีเหนือ ทำให้เกาหลีใต้และประเทศอื่นๆติดตามใกล้ชิด เนื่องจาก สะท้อนถึงทิศทางนโยบายประจำปีนี้ของผู้นำเกาหลีเหนือ



+++เอเอฟพี รายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นให้คำมั่นในโอกาสอวยพรปีใหม่ในวันนี้ว่า จะไม่นำประเทศเข้าสู่สงคราม หลังการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ 1 วัน หลังจีนประกาศว่าสามารถสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 ได้สำเร็จ มีระวางขับน้ำ 50,000 ตัน ใช้บรรทุกเครื่องบินรบเจ-15 และเครื่องบินอื่นๆของจีน ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่า ภายใต้กฏหมายใหม่ที่มุ่งเพื่อสันติภาพและความมั่นคงนี้ รัฐบาลจะใช้ทางเลือกอื่นๆเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต้องเข้าสู่สงคราม



+++รัฐบาลชุดปัจจุบัน วางรากฐานอนาคตของประเทศ ซึ่งรักสันติ เพื่อส่งมอบต่อให้กับคนรุ่นต่อไป ก่อนหน้านี้ รัฐสภาญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายเมื่อเดือนกันยนปีก่อน มีผลให้ญี่ปุ่นสามารถส่งทหารเข้าร่วมศึกสงครามในต่างแดนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นยุคสงครามโลกที่ 2 กฎหมายนี้ได้รับการคัดค้านอย่างรุนแรงจากสาธารณะชนในญี่ปุ่น ประชาชนนับหมื่นคนร่วมการเดินขบวนประท้วงตามท้องถนน นอกจากนี้ยังสร้างความไม่พอใจให้กับประเทศจีนและสองเกาหลีด้วย ด้านนักวิจารณ์หลายคนเตือนว่าการประกาศใช้กฏหมายนี้อาจจะส่งผลให้กองทัพญี่ปุ่นถูกดึงเข้าไปพัวพันกับสงความในต่างแดน คล้ายๆกับกรณีการบุกอิรักและอัฟกานิสถานของสหรัฐฯ



+++สัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ร้าวฉานโดยต่อเนื่องเป็นผลพวงจากการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนเหนือหมู่เกาะเซนกากุหรือ เกาะเตียวหยูในภาษาจีน การที่จีนขยายอิทธิพลทางทหารมากขึ้นในระยะหลังๆ อีกทั้งมีปัญหาพิพาทเรื่องอาณาเขตกับเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในทะเลจีนใต้นั้นเป็นที่จับตามองของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งจัดทำนโยบายต่างประเทศเรื่องการปรับสมดุลอำนาจใหม่ในเอเชีย



+++สถานการณ์ภัยแล้ง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่ามีอำเภอที่อยู่ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน ประมาณ 400 อำเภอทั่วประเทศ ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้งในปีนี้ สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงกลาโหม เตรียมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในเรื่องน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และสร้างแหล่งน้ำ เช่น ขุดบ่อน้ำบาดาล จำนวน 2,000 บ่อ พร้อมกับให้เกษตรอำเภอ และเกษตรจังหวัด ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของเกษตรกร และสร้างความเข้าใจ ไม่ขยายพื้นที่เพาะปลูกเนื่องจากน้ำมีจำกัด



+++ในส่วนการทำนาปรัง มีการปลูกไปแล้วกว่า  1 ล้าน 5 แสน 82,465 ไร่ แม้ว่าชาวนาจะเข้าใจถึงสถานการณ์น้ำ แต่หากยังไม่หยุดขยายพื้นที่ทำนาปรังมีความเสี่ยงสูงเสียหายมากในช่วงฤดูแล้งยาวนาน ต้องเดินหน้าขอความร่วมมือ จากเกษตรกรและกลุ่มผู้ใช้น้ำ เพื่อไว้กินใช้ให้เพียงพอตลอดในช่วงฤดูแล้งไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า และให้วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปได้ และยังตั้งเป้าให้เป็นปีแห่งการปฏิรูปภาคการเกษตร สนับสนุนให้เกษตรกรรวมตัวทำเกษตรแปลงใหญ่ ให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิต ภายในปี 2560 จะเห็นว่าความเป็นอยู่ของเกษตรกรทั่วประเทศจะต้องดีขึ้นแน่นอน



+++คดีอาชญากรรมที่จ.กาฬสินธุ์  พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ตำรวจชุดสืบสวนได้คุมตัวผู้ต้องสงสัย 3คนที่เกี่ยวข้องกับคดีทำร้ายร่างกาย น้องสโนว์ นักเรียนชั้นม.6 อายุ18ปี จนเสียชีวิตอย่างทารุณ เหตุเกิดเมื่อวัน 23ธ.ค.2558 แต่ขอสืบสวนก่อนเกรงเสียรูปคดี สำหรับคดีสะเทือนขวัญนี้ได้รับความสนใจจากโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายให้ผู้ต้องหาที่กระทำการล่วงละเมิดทางเพศมีโทษประหารชีวิตเพราะเชื่อว่าส่วนใหญ่ผู้ต้องหาที่ลงมือทำได้ถึงขนาดนี้ไม่มีจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์



 

ข่าวทั้งหมด

X